กองทรัสต์ SPRIME จ่ายปันผล 0.160 บาท จากผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2563 เน้นผลตอบแทนสม่ำเสมอ

130

 

 

มิติหุ้น – บริษัท เอส รีท แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดการทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอส ไพรม์ โกรท (SPRIME) ประกาศจ่ายปันผล 0.160 บาท จากผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ดีขึ้น โดยกองทรัสต์มีรายได้รวมทั้งสิ้น 129.87 ล้านบาท และกำไรจากการลงทุนสุทธิ 84.26 ล้านบาท  

นายเกตุกร เขมธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส รีท แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ฐานะการเงินของกองทรัสต์ เอส ไพรม์ โกรท ในปัจจุบันมีความแข็งแกร่ง ประกอบกับผลการดำเนินงานที่เป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 จึงมีมติอนุมัติจ่ายประโยชน์ตอบแทนจากผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2563 แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในอัตรารวม 0.160 บาทต่อหน่วย โดยมีกำหนดปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 (Book Closing Date) และเตรียมจ่ายประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในวันที่ ธันวาคมนี้

จากสถานการณ์โควิด-19 บริษัทมองว่าธุรกิจหรือผู้เช่าจะยังมีการใช้พื้นที่อาคารสำนักงานอยู่ ส่วนการ Work from Home จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจ เพราะการทำงานในอาคารสำนักงานยังมีข้อได้เปรียบหลายประการ เช่น สภาพแวดล้อมการทำงาน ความมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เนื่องจากการทำงานที่ได้พบปะกันช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กร รวมถึงเรื่องของการพัฒนานวัตกรรม ดังนั้นความต้องการอาคารสำนักงานจะไม่ได้หมดไป แต่พื้นที่จะถูกปรับให้เป็น Social Hub ขององค์กรและพนักงานมากยิ่งขึ้น สำหรับอาคารซันทาว์เวอร์ส ปัจจุบันผู้เช่าได้กลับเข้ามาทำงานที่อาคารแล้วเกือบ 100% และเริ่มมีลูกค้ารายใหม่เข้ามาดูพื้นที่เช่า โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถเพิ่มอัตราการเช่าให้สูงขึ้นได้ในปี 2564  

จากแนวโน้มความต้องการเช่าพื้นที่ที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น โดยมีผู้เช่ารายใหม่สนใจและอยู่ระหว่างการตัดสินใจที่จะเช่าพื้นที่ สำหรับผู้เช่ารายเดิมที่สัญญาครบกำหนดภายในสิ้นปี 2563 ได้มีการต่อสัญญาครบถ้วนแล้ว ส่วนผู้เช่าที่สัญญาเช่าจะครบกำหนดในไตรมาส 1/2564 ได้แสดงความต้องการต่อสัญญาเช่าแล้วกว่า 84%” นายเกตุกร กล่าว 

ทั้งนี้ จากจุดเด่นของอาคารสำนักงานซันทาวเวอร์สซึ่งเป็นทรัพย์สินหลัก ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี อยู่ในศูนย์กลางเศรษฐกิจตอนเหนือของกรุงเทพฯ ใกล้กับจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน และจุดขึ้นลงทางด่วน จึงส่งผลดีต่อการปรับตัวของค่าเช่าและการรักษาอัตราการเช่าที่สูงได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับระยะเวลาการเช่าคงเหลือ 28 ปี จึงทำให้มูลค่าทรัพย์สินจากการประเมินมูลค่าประจำปี 2563 สูงถึง 5,462 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากการประเมินมูลค่าเมื่อปี 2562 (Y-o-Y)

กองทรัสต์ยังคงมุ่งเน้นนโยบายรักษาระดับการจ่ายผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ ควบคู่กับการดูแลรักษาสินทรัพย์ และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เช่า เพื่อให้พร้อมต่อการปรับตัวของรูปแบบการเช่าสำนักงานในอนาคต โดยเชื่อมั่นว่าการทำงานร่วมกันในสำนักงานยังคงเป็นแนวทางหลักในการทำงาน สิ่งที่อาคารจะปรับตัวต่อไปในอนาคตคือการนำเสนอพื้นที่อาคารสำนักงานที่มีความยืดหยุ่น และสอดคล้องกับรูปแบบความต้องการในอนาคต รวมทั้งดูแลและจัดการเรื่องความสะอาด ความปลอดภัย การมีสภาพแวดล้อมที่ดี และการมีรูปแบบพื้นที่ที่หลากหลาย เช่น การมี Flexible workspace, Co-working space เป็นต้น