SEAFCO กำไรมีโอกาสพลิกฟื้นในไตรมาส4/63 รถไฟฟ้าสายสีส้มเปลี่ยนชีวิต

608

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.ซีฟโก้ หรือ SEAFCO ว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/63 ของ SEAFCO ระดับมาร์จิ้นอ่อนตัวลงเหลือเพียง 11% น้อยกว่าปกติที่เคยทำได้ระดับ 15%-20% เนื่องจากมีผลกระทบ 1) คนงานที่ขาดแคลน 2) มีงานที่คาดว่าจะดำเนินการเข้าพื้นที่ได้ถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากยังต้องรอการอนุมัติEIA โครงการ Central Embassy และโครงการ Forestia ที่ผู้ว่าจ้างมีการเลื่อนกรอบเวลาก่อสร้างออกไป วงเงินโดยรวมราว 1 พันล้านบาท ขณะที่ โดยบริษัทคาดจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงต้นปี 2564 3)งานใหม่ที่ได้รับในช่วงระหว่างปี(ช่วง COVID-19) มีบางงานที่มีระดับมารจิ้นไม่สูงเนื่องจากการแข่งขันในตลาด สะท้อนต่อผลประกอบการในช่วงไตรมาส3/63 โดยคาดผลกระทบจากประเด็นดังกล่าวยังมีความต่อเนื่องไปยังไตรมาส2/64

ปรับประมาณการปี 2563 และ ปี 2564
ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณกำไรสุทธิปี 2563 และ 2564 ลง 26% และ25% เป็น 229 ล้านบาท และ266 ล้านบาท ตามลำดับ จากผลกระทบของระดับมาร์จิ้นที่ลดลงเป็น 15.9% และ 15.2% จากเดิมที่ 18.7% และ 18.2% รวมถึง การรับรู้รายได้ที่ถูกเลื่อนออกไปจากงานในมือ 1พันล้านบาทที่คาดจะไปรับรู้ในปี 2564 ทำให้ประมาณการการรับรู้รายได้ลดลง เป็น 2.5 พันล้านบาท และ 3.2 พันล้านบาท ตามลำดับ โดยมีราคาเหมาะสมปี 2564 ที่ 5.75 บาท อ้างอิง PE 15.5 เท่า( PE-0.50SD) ลดลงจาก 7.45 บาท โดยปัจจุบันบริษัทซื้อขายระดับ PE ที่ 13.4เท่าน้อยกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 17.5 เท่า

สีส้มเปลี่ยนชีวิต
โดยคาดสิ่งที่จะเป็นปัจจัยบวกหนุนงานใหม่และผลประกอบการของ SEAFCO คือการรับงานใหม่เพิ่มระหว่างปีคาดงานรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบินมีความชัดเจนในการจ้างงานฐานรากซึ่งมีมูลค่างานโดยรวม กว่า1.2 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนต่อขยาย คาดมีงานฐานรากที่ SEAFCO คาดหวังได้รับไม่ต่ำกว่า 1.5 พันล้านบาท คาดทั้ง 2 งานใหญ่จะช่วยเพิ่มงานในมือและผลประกอบการในอนาคต

แนะนำเก็งกำไร
ฝ่ายวิจัยคาดสถานการณ์ต่าง ๆ ที่กดดัน SEAFCO ด้วยผลกระทบจากการขาดแคลนคนงาน และงานใหม่ที่ผลต่อการแข่งขันในตลาด จะค่อยๆคลี่คลายโดยปัญหาขาดคนงาน ทาง SEAFCO อยู่ระหว่างหาคนงานใหม่ และงานจากโครงการมูลค่าสูงเริ่มเห็นความคืบหน้าของการก่อสร้าง หากเป็นตามคาดการแข่งขันในตลาดจะเริ่มลดลง โอกาสที่ SEAFCO จะเลือกรับงานที่มีมาร์จิ้นดีทำได้ดีขึ้น ส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรที่ฟื้นตัว พร้อมการเพิ่มงานในมือ