GUNKUL ลุยจ่ายไฟครบ600MW ดันรายได้เข้าเป้า8.2พันล. (23/12/63)

486

มิติหุ้น – GUNKUL ลั่นผลงานไตรมาส 4 โตต่อเนื่อง คาดรายได้ทั้งปี 63 เข้าเป้า 8.2 พันล้าน เตรียมจ่ายไฟโครงการโรงไฟฟ้าในเวียดนาม-มาเลฯ ภายในสิ้นปีนี้เพิ่มอีก 130 MW ส่วนปีหน้าลุย COD โครงการที่ญี่ปุ่น 2 โครงการ รวม 120 MW ฟาก โบรกฯ ระบุให้คำแนะนำทยอยซื้อลงทุน

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง หรือ GUNKUL ประกอบธุรกิจพลังงานทดแทนครบวงจร โดย “นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย” กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ทิศทางผลประกอบการไตรมาส 4/63 คาดเติบโตต่อเนื่อง เป็นผลจากโครงการโรงไฟฟ้าทุกแห่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ตามแผน ประกอบกับบริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าที่เตรียม CODภายในสิ้นปีนี้อีก 130  MW แบ่งเป็น โครงการโรงไฟฟ้าที่เวียดนาม 100 MW และที่มาเลเซียอีก 30 MW ส่งผลให้สิ้นปีนี้บริษัทสามารถจ่ายไฟเข้าระบบได้ 600 MW ตามแผน ขณะที่ปี 64 บริษัทมีแผน COD โครงการโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นเพิ่มอีก 2 โครงการ รวม 120 MW

รายได้โตเข้าเป้า 8.2พันล.

ด้านนางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GUNKUL กล่าวว่า จากโครงการโรงไฟฟ้าที่ทยอย COD ได้ตามแผน ประกอบกับงานก่อสร้างที่สามารถรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดรายได้ทั้งปีเติบโตตามเป้าที่ 8,200 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายปี 64-65 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10-15% ต่อปี และขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างการดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา ในรูปแบบของสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างหน่วยงานเอกชนกับเอกชน (Private PPA) กำลังการผลิต 50 MW ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 64

ลุยงานเพิ่ม-กูรูแนะทยอยซื้อ 

อีกทั้งบริษัทมีงานก่อสร้างในมือ (Backlog) ราว 8,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงปลายปีนี้ราว 800 ล้านบาท และในปี 64 อีกราว 2,000-2,400 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องในปีถัด ๆ ไป โดยบริษัทคาดว่าจะยังมีงานก่อสร้างที่จะเข้าไปรับงานอีกจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของงานก่อสร้างให้เติบโตต่อในปีหน้าด้วย

ฝ่ายวิจัย บล.เอเชียพลัส ระบุว่า ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิตั้งแต่ปี 64 เพื่อสะท้อนการเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 50 MW ภายใต้สมมติฐานเงินลงทุนโครงการอยู่ที่ 25.2 ล้านบาท/MW สัดส่วนการกู้ยืมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 75:25 และกำหนดให้อัตราดอกเบี้ยจากการกู้ยืมเท่ากับ 3.8% ต่อปี อัตรารับซื้อไฟของโครงการอยู่ที่ 2.2 บาท/หน่วย ส่งผลเบื้องต้นคาด IRR ของโครงการจะอยู่ราว 11.5% ทั้งนี้ภายใต้ประมาณการใหม่ คาดกำไรสุทธิปี 64-65 เพิ่มขึ้น 1.2% และ 1.5% มาอยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท และ 2.1 พันล้านบาท ตามลำดับ ดังนั้น แนะนำ “ทยอยสะสม” เป้าหมาย 3.20 บาท

www.mitihoon.com