MGT เผยรัฐประหารในเมียนมาไม่กระทบ-ชี้ผลงานพีค

323

 

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บจม.เมกาเคม (ประเทศไทย) หรือ MGT ผู้จัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษสำหรับอุตสาหกรรม โดย “นายวิทยา อินาลา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า การทำรัฐประหารในเมียนมา ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานและผลประกอบการของบริษัท และบริษัทในเครือ (ธุรกิจในเมียนมามีสัดส่วนไม่เกิน5%ของรายได้เท่านั้น)

ส่วนภาพธุรกิจทั้งปี 63 คาดทั้งกำไรสุทธิและรายได้รวมจะเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้รวมแตะที่ระดับ 850 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 24% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 681.78 ล้านบาท เนื่องจาก “ธุรกิจจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์” ที่คิดเป็นสัดส่วน 75-80% ของรายได้รวมปริมาณออเดอร์ยังเข้ามาต่อเนื่อง

โดยบริษัทจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากกว่า 1,000 ชนิด ครอบคลุมในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงยังได้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยที่ถือหุ้น 80% ได้แก่ “บจ.เมกาเคม พลัส” ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ประเภทเอทานอล ปัจจุบันปริมาณออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ด้าน “บล.โนมูระ พัฒนสิน” เปิดเผยว่า ปัจจุบัน MGT มีความสนใจเข้าซื้อกิจการ (เทกโอเวอร์) ธุรกิจในอุตสาหกรรม Lifestyle Biotech (เครื่องสำอาง, ยา, อาหาร) เพื่อหวังเพิ่มสัดส่วนรายได้ในกลุ่มดังกล่าว คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในระยะถัดไป

ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/63 คาดจะเติบโตได้ดี เพราะมีปริมาณคำสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น หลังโรงงานเริ่มเปิดดำเนินงานตามปกติ อีกทั้งคาดว่ายอดขายเอทานอลแปลงสภาพยังอยู่ในระดับสูง (แม้อาจไม่เท่าช่วง peak ในQ2/63) โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีการสั่งของเข้ามาในคลังสินค้ามากเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจากการขนส่งในช่วง COVID ทำให้คาดว่าบริษัทมีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า

ดังนั้นทั้งปี 63 คาด MGT กำไรนิวไฮในกรอบ 110 -130 ล้านบาท (EPS 0.28 – 0.33 บ.) เติบโตกว่า 80% จากปีก่อน แนะนำ “เก็งกำไร”เป้าหมาย 3.15 – 3.38 บาท

www.mitihoon.co