NRF โตดุดัน! เกาะMegatrend ตัวจริง”ต้นน้ำ”ธุรกิจกัญชง

568

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ หรือ NRF ว่า NRF มีกำไรปกติไตรมาส4/63 ที่ 85 ลบ. (+47%YoY, +15%QoQ) ใกล้เคียงที่ฝ่ายวิจัยคาด จากยอดขายยังโตได้ QoQ แม้โดนปัญหาตู้คอนเทนเนอร์กระทบสินค้า Plant-based ซึ่งเป็นตัวที่มี GPM สูง ขณะ Outlook ปี 64-66 ของผู้บริหารในที่ประชุมนักวิเคราะห์ มีความ Aggressive กว่าสมมติฐานของเราและตลาดมาก ด้วยแนวโน้มในธุรกิจ Megatrend อย่าง Plant -based และ E-commerce เกิดไวกว่าคาด และมี Upside risk จากธุรกิจกัญชงกับ Partner ที่มีศักยภาพ ทำให้เราปรับประมาณการกำไรปี 64-65 ขึ้น และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 8.30 บาท สู่ 11.00 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”

Plant -based และ E-commerce เป็น Megatrend ที่มาไวกว่าคาด
โดยบริษัทได้ปรับได้แตะ 3 พันลบ. ในปี 67 ให้ไวขึ้นกว่าเดิมอย่างน้อย 1-2 ปี จาก (1) Plant-based มาไวกว่าคาด โดยคาดสัดส่วนรายได้ปี 64 เพิ่มเป็น 15% ไวกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดเดิม 12% และโตจาก 8% ในปี 63 ด้วยบริษัทมั่นใจออเดอร์โรงงานใน UK คาดเริ่มเห็นกำไร 3Q64 และ Konjac ดูดีอยู่ในเฟสขยายไลน์ผลิตต่อเนื่อง ขณะแนวโน้มอุตสาหกรรมในเอเชียเกิดไวกว่าที่คิด คาดเห็นการตั้งโรงงานในภูมิภาคได้ไวกว่าแผนเดิม และ (2) รายได้จาก E-Commerce มาไวกว่าคาด จากความพร้อมและโอกาส ทำให้ตั้งเป้า M&A ต่อในปีนี้แบบ Aggressive ซึ่งนอกจาก NRF จะซื้อบริษัทที่มีกำไรเพิ่มมาในพอร์ตทันทีแล้ว ยังเปิดโอกาส Cross-selling ขายสินค้า NRF เสริมด้วย

ประกาศซื้อธุรกิจกัญชงครบวงจร มองความเสี่ยงต่ำและเกิด Synergy
NRF ทำการซื้อ บริษัท โกลเด้น ไตรแองเกิล เฮลท์ จำกัด (GTH) 100% ด้วยวิธี Share Swap โดยจะเกิด Dilution กับผู้ถือหุ้น NRF เดิม 1.2% ซึ่งฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อดีลนี้ จากการเป็นการเข้าสู่ธุรกิจกัญชงด้วยความเสี่ยงต่ำ ด้วย GTH มี Know-how ตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ มีประสบการณ์กว่า 3 ปี และมีลูกค้ารองรับอยู่แล้ว อาทิ เช่น Smooth E และ Dentiste ขณะ NRF สามารถนับกัญชงไปต่อยอดใส่ในผลิตภัณฑ์ของตนได้ ซึ่งหลังทดลองเบื้องต้นได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยคาดจะเห็นความชัดเจนยิ่งขึ้นหลังดีลเสร็จสิ้นในช่วงปลายไตรมาส 2/64

ปรับประมาณการกำไร และ ราคาเป้าหมายขึ้น
คงคำแนะนำ “ซื้อ” พร้อมราคาเป้าหมายใหม่ 11.00 บาท ด้วยวิธี DCF (WACC 7.7%,G.3%) จากปรับประมาณการกำไรปี 64-65 ขึ้น 8% และ 10% ตามลำดับ สะท้อนแนวโน้มธุรกิจ Plant-based และ
E-Commerce ที่ดีกว่าคาด และปรับ WACC ลงจาก 8% เป็น 7.7% สะท้อนกำไรโตอย่าง Aggressive ผ่านเงินกู้มากขึ้น และได้จัดโครงสร้างเพิ่มเงินทุนในอนาคตออก ESOP และ Warrant 1-2 อายุ 2 ปี ราคาใช้สิทธิ์ 10 บาท รวม 77 ล้านหุ้น หรือมี Dilution สูงสุด 5.4% และจ่ายหุ้นปันผล 25:1 Dilution 4.3%