08/06/21 ตลาดจะขึ้นไป 1700-1800 จุดอย่างที่เค้าว่าจริงหรือไม่ ยอดสะสม Single Stock Futures ทะลุล้านอีกแล้ว!!

348

จะถูกเค้าเทแบบที่แล้วๆมาหรือไม่?

ข้อมูลการซื้อขายตลาดอนุพันธ์ เมื่อสิ้นวัน 7 มิ.ย.64 บอกเราว่า นักลงทุนรายย่อยจัดหนักใน ยอดสะสม Single Stock Futures สูงถึง 1,103,897 สัญญา!!

สำหรับท่านที่ไม่คุ้นเคยกับตลาดสินค้าอนุพันธ์ อาจจะเฉยๆกับยอดจำนวนนี้ จึงขออธิบายง่ายๆว่า มันคือการทำสัญญาซื้อหุ้นผ่านตลาดฟิวเจอร์ ด้วยการใช้เงินจำนวนน้อย แทนจำนวนที่มากกว่าราวๆ 10 เท่าในยอดเงินจริง นั่นแปลว่านักลงทุนรายย่อยมั่นใจมากว่าตลาดจะขึ้นไปหากรอบ 1700-1800 ตามข้อมูลที่แพร่หลายในสื่อต่างๆตอนนี้

ตลาดจะขึ้นไป 1700-1800 จุดอย่างที่เค้าว่าจริงหรือไม่

เราใช้เทคนิคอลชาร์ทช่วยหาขอบเขตของดัชนีได้ดังนี้

จาก Volume At Price หา Cluster Zone ของราคาได้ดังนี้

zone a คือ กรอบ 1595-1616*-1636**

zone b คือ กรอบ 1550-1595

 

อ่านได้ว่า ตลาดจะให้แนวโน้มขึ้นต่อเนื่อง เมื่อสามารถปิดสิ้นวัน>1636** ได้

จะมีแนวโน้มพักตัวเมื่อเริ่มปิด<1616* ต่อเนื่องกัน และจะต้องระวังให้มากเมื่อปิดต่ำ 1595 เพราะโอกาสในการลงมาพักตัวใน zone b กรอบ 1550-1595 เป็นไปได้มาก

 

สรุปว่า อย่าเพิ่งไปมองเป้าหมายไกลๆอย่าง 1700-1800 เลยครับ จะไปไกลได้ขนาดนั้นต้องมีท่าทีว่าจะปิด>1636** ให้ได้เสียก่อน

 

ประเด็นที่ต้องระวังก็คือในขณะนี้รายย่อยสะสม Long SSF ไว้จำนวนมาก โดยคาดการณ์ว่าตลาดจะขึ้นต่อเนื่อง บ้างกล่าวถึงเป้าหมายดัชนี 1700-1800 จุด แต่อะไรจะเกิดขึ้นหากคุณไม่ได้ไปต่อ

เมื่อราคาหุ้นอ้างอิงลดลง ผู้ถือสถานะ Long SSF จะขาดทุนตามขนาดของ leverage เช่นเดียวกับเมื่อตอนได้กำไร

ส่งผลให้ทางโบรกคู่สัญญาเรียกหลักประกันเพิ่ม เอาให้เข้าใจง่ายคือโบรกเรียกเติมเงิน หากคุณยังไม่ปิดสถานะ และยังผิดทางไปเรื่อยๆ ก็ต้องเติมเงินไปเรื่อยๆ สุดท้ายจะถึงจุดที่เติมไม่ไหว

 

ขั้นต่อไปคือการถูกบังคับปิดสถานะ เมื่อ Long SSF ของนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากถูกบังคับปิดสถานะ ทางโบรกก็จะทำการขายหุ้นอ้างอิงที่ซื้อไว้ Hedging ออกมาพร้อมกัน ทำให้ตลาดปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว

เนื่องจาก SSF หรือ Single Stock Futures ในปัจจุบันแล้วถูกทำการซื้อขายในรูปแบบ Block Trade มากกว่าการซื้อขายในกระดาน ทำให้ต้องทำความเข้าใจกับกลไกของสินค้าอนุพันธ์ที่มีผลต่อราคาหุ้น

“Block trade คือการเพิ่มอำนาจซื้อให้กับผู้ลงทุน เป็นการเทรดหุ้นที่มี Leverage ระดับ 10-20 เท่าของมูลค่าเงินลงทุน

 

เช่น ถ้าต้องการซื้อหุ้น XXX ราคา 500 บาทต่อหุ้น จำนวน 2 หมื่นหุ้น ปกติต้องใช้เงินลงทุนทั้งหมด 10 ล้านบาท แต่หากซื้อผ่าน Block trade ก็แค่สั่งซื้อ SSF ที่อ้างอิงหุ้น XXX โดยวางเงินประกันตามที่ตลาด TFEX กำหนด ซึ่งหุ้นอ้างอิงแต่ละบริษัทวางเงินประกันไม่เท่ากันตามอัตราที่ตลาด TFEX ประกาศออกมา

 

โดยเฉลี่ยขั้นต่ำปัจจุบันอยู่ที่ราว 10% ของมูลค่าจริง เท่ากับต้องวางเงินเพียง 1 ล้านบาท แต่ถือครองหุ้นเทียบเท่ากับมูลค่า 10 ล้านบาท

 

ซึ่งหากราคาหุ้น XXX เพิ่มขึ้นเป็น 550 บาท ถ้าซื้อบนกระดานจะได้กำไร 1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10% จากเงินต้น 10 ล้านบาท

แต่หากซื้อผ่าน Block trade ก็จะได้กำไรเท่ากัน แต่ใช้เงินต้นเพียง 1 ล้านบาท คิดเป็นกำไรถึง 100%”

 

ส่วน โบรก จะมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการซื้อขายในอัตราตายตัวที่ 0.1% หรือ ล้านละ 1,000 บาท และรายได้ดอกเบี้ย อัตราเฉลี่ยขั้นต่ำของอุตสาหกรรมอยู่ที่ราว 5.5% ต่อปี คิดตามจำนวนวันถือครองจริง แต่มีขั้นต่ำ 4 วัน ไม่ได้ทำกำไรจากการขึ้นหรือลงของสินค้า

โดยม้าเฉียวดูหุ้น The Future

www.mitihoon.com