เริ่มกังวลเรื่องมาตรการ Fed

254

รู้ทันการลทุนรภาพรวมดัชนี SET index สัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มส่งสัญญาณการปรับฐาน หลังจากที่ไม่สามารถยืนเหนือแนว 1,650 จุดได้ ขณะเดียวกันมีปัจจัยลบเข้ามาถ่วง Sentiment การลงทุนระหว่างสัปดาห์คือ การส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ในปี 2566 จากเดิมที่ Fed เคยส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในปี 2567 (ใกล้เคียงกับที่ฝ่ายวิจัยฯ บล. เคจีไอ คาด) และที่ประชุม Fed ล่าสุดได้ทำการปรับประมาณการฯ GDP ปีนี้ขึ้น ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ตลาดการเงินเกิดความกังวลต่อ การปรับลดมาตรการ QE หรือมาตรการชะลอการซื้อพันธบัตร ของ Fed ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเมื่อ Fed ทำการส่งสัญญาณเช่นนี้ในภาวะที่นักลงทุน “เสพติดอัตราดอกเบี้ยต่ำ” ไปแล้ว จึงทำให้เกิดแรงขายตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยลบจากประเด็นข่าวที่ประเทศจีนเตรียมนำสต็อกโลหะพื้นฐานเช่นทองแดง สังกะสี อลูมิเนียม จากคลังสำรองของประเทศออกมาปล่อยในภาคอุตสาหกรรม เพื่อลดความร้อนแรงของราคาสินค้าดังกล่าว สำหรับปัจจัยภายในประเทศยังคงอยู่ที่ความคาดหวังเรื่องการเปิดประเทศภายในช่วงปลายปี 2564 นี้

เราประเมินดัชนี SET index Sideway down แนวรับ 1,590 จุด และ 1,580 จุด / แนวต้าน 1,630 จุด และประเมินว่าจะเกิดการหมุนตัวเล่น จากหุ้นที่ Outperform ตลาดฯ มายังหุ้นที่ยัง Laggard มากขึ้นในสัปดาห์นี้ หุ้นที่น่าสนใจ i) กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ โดยคาดจะมีการเปลี่ยนกลุ่มเล่นจาก กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (น้ำมัน ปิโตรเคมี เหล็ก เกษตร) ไปยังหุ้นกลุ่มที่ได้รับอานิสงค์ต้นทุนวัตถุดิบลดลง อาทิ EPG, PJW เป็นต้น ii) หุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว อาทิ GPSC (เตรียมลงทุนซื้อโซลาร์ฟาร์มที่ต่างประเทศ โดยได้เงินทุนหนุนจาก PTT), SIMAT (มีการแจก Warrant ที่เคยอนุมัติไปแล้ว และเตรียม IPO บ.ลูก) iii) หุ้นกลุ่ม Re-opening ที่ยัง Laggard เช่น CPALL, BJC เป็นต้น

โดย สุโชติ ถิรวรรณรัตน์  ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย)

www.mitihoon.com