คัด10หุ้นเด่นไม่ได้รับผลกระทบ‘ล็อกดาวน์’

3622

 

มิติหุ้น-ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในภาวะผันผวน เพราะแรงกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาด Covid-19ในประเทศที่ยังทวีความรุนแรงต่อเนื่อง โดยพบผู้ติดเชื้อ Covid-19 และยอดผู้เสียชีวิตทะลุทำนิวไฮจนน่าตระหนกตกใจ  ทำให้มาตรการล็อกดาวน์ยืดออกไป และอาจจะกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนในช่วงครึ่งปีหลัง

ด้าน “บล.กสิกร” ประเมินผลกระทบจากการล็อกดาวน์ 1 เดือนจะอยู่ที่ 300,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.7% ของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ทั้งปี 64 และกระทบ market EPS ที่ 4% ซึ่งสะท้อนในตลาดหุ้นแล้ว ซึ่งประเมินแนวรับอยู่ที่ 1,540 จุด จากการล็อกดาวน์ 1 เดือน และ 1,480 จุด หากล็อกดาวน์นานขึ้น/เข้มงวดขึ้น

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในช่วงสภาวะแบบนี้ แนะนำอุตสาหกรรมที่ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์หรือมีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาหารและเครื่องดื่ม เกษตร ถุงมือยาง เรือคอนเทนเนอร์ ผู้พัฒนาอสังหาเพื่อที่อยู่อาศัยแนวราบ, บริหารหนี้ (AMC), โรงพยาบาลในประเทศ, แกดเจ็ตและการเงิน

10หุ้นเด่นน่าลงทุน

โดยจากการสำรวจเมื่อครั้งที่มีการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ทั่วโลกในปี 63 ที่ผ่านมา กลุ่มดังกล่าวประกาศกำไรและรายได้ไตรมาส 2/63 ที่แข็งแกร่ง ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงคาดว่า จะซ้ำรอยอีกครั้งในไตรมาส 3/64 เมื่อประเทศไทยประกาศล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ ดังนั้นหุ้นเด่นที่แนะนำ คือ ASK, CHAYO, JMT, BCH, TU, ASIAN, KCE, EPG, CBG, MEGA

“นายเอกกมล ประสพผลสุจริต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บมจ.เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น หรือ ASIAN มั่นใจผลงานในช่วงครึ่งหลังปี 64 คาดยอดขายจะเติบโตที่ค่อนข้างดี ทั้งในส่วนของ “ธุรกิจอาหารแช่แข็ง และอาหารสัตว์เลี้ยง” เพราะความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น และกำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัว ทำให้ในปัจจุบันกลุ่มลูกค้ายังคงมีการส่งคำสั่งซื้อให้บริษัทอย่างต่อเนื่อง  ล่าสุดบริษัทมองหาโอกาสในการขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น อาทิโซนเอเชียและยุโรป มั่นใจทั้งปี 64 ผลงานโตแกร่ง

เพิ่มเงินทุนขยายฐาน

“นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ชโย กรุ๊ป หรือ CHAYO เผยปี 64 บริษัทได้เพิ่มงบลงทุนเพื่อซื้อสินทรัพย์เข้ามาบริหารเป็น 2.5 พันล้านบาท จากเป้าเดิม 2 พันล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุนของ CHAYO ประมาณ 1-1.2 พันล้านบาท ส่วนอีก 920 ล้านบาท เป็นงบลงทุนของ บริษัท บริหารสินทรัพย์ชโย เจวี จำกัด (Chayo JV)

โดยครึ่งแรกปี 64 ใช้งบซื้อหนี้ไปแล้ว 700-800 ล้านบาท ได้มูลหนี้มาเพิ่ม 2,300 ล้านบาท คาดช่วงครึ่งหลังปี 64 สถาบันการเงินจะนำหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ออกมาขายมากขึ้น ทั้งปี 64  มั่นใจรายได้เติบโตทะลุเป้า 25% จากปีก่อน

“บล.โนมูระ พัฒนสิน” ประเมิน “บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล หรือ BCH” ระยะสั้นจะกลับมา Outperform เนื่องจาก 1.คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/64 มีโอกาสดีกว่าคาดจากผลบวกรายได้เสริม COVID และ % Gross margin ดีกว่าที่คาดไว้, 2.ในไตรมาส 3/64 รายได้เสริม COVID-19 จะดีกว่าที่ประมาณการ จากยอดตรวจคัดกรองเชื้อมีแนวโน้มสูงกว่าเมื่อเทียบกับสมมติฐานของเราคาดเฉลี่ยต่อวัน 1,300 คน และมีรายได้รักษาผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มเตียงรักษา แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 33บาท

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

https://lin.ee/cXAf0Dp