PSL โชว์ Q2/64 พลิกทำกำไรกว่า 826 ลบ. รับผลบวกรายได้ต่อวันต่อลำเรือโตแรง 3 เท่า กูรูฟันธงโค้งหลังเด่นจากค่าระวางเรือขยับพีค

633

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง หรือ PSL แจ้งกำไรสุทธิไตรมาส 2/694 ที่ 826.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/63 ที่ขาดทุนสุทธิ 1.18 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจาก รายได้ต่อวันต่อลำเรือปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 17,841 เหรียญสหรัฐ ซึ่งสูงกว่าไตรมาส 2/63 ที่ 6,099 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า ส่งผลให้กำไรสุทธิสำหรับครึ่งแรกของปี 2564 เป็นกำไรที่สูงที่สุดนับจากปี 2552,

ด้าน บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ คาดค่าระวางเรือเทกองทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง หลังท่าเรือหยานเถียนในประเทศจีน เกิดคลัสเตอร์โควิดใหม่ ทั้งนี้ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อค่าระวางเรือเทกองที่ต้องจับตา คืออัตราเงินเฟ้อที่อาจเริ่มมีการ peak out, การเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยว และ Infrastructure stimulus plan ของสหรัฐฯ มูลค่า 0.579 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่จะหนุนการขนส่งสินค้าทางเรือเทกอง เช่นปูนซีเมนต์ สินแร่เหล็ก และไม้

อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของบริษัทจะคงกำไรสุทธิปี 64 ไว้ที่ 1.52 พันล้านบาท (จากขาดทุน -1.30 พันล้านบาทในปี 63) โดยมีแนวโน้มจะพลิกกลับมามีรายได้เติบโต +62%YoY อยู่ที่ 6.05 พันล้านบาท จาก global demand ที่ฟื้นตัว ประกอบกับอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเป็น 39.4% จากค่าระวาง BSI Index ที่อยู่ในระดับสูงหนุนโดยการขนส่งระหว่างประเทศที่สูงขึ้นจาก commodity super cycle ที่เกิดขึ้นทุกๆ 12 ปี (จากปี 63 ที่ 13.6% ใกล้เคียงปี 53 ที่ดัชนี BSI Index อยู่ที่ระดับ 2,000-3,000 จุด)

แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 3-4/64 ช่วงฤดูเก็บเกี่ยวจะหนุนผลประกอบการของธุรกิจ แต่ต้องจับตา Inflation peak out เนื่องจากดัชนีค่าระวางปรับตัวขึ้นมามาก จึงทำให้ตลาดอาจเริ่มมีความกังวลว่าจะมี correction หากอัตราเงินเฟ้อเริ่มมีการ peak out อย่างไรก็ตามคาดว่าค่าระวางจะยังมีแรงหนุนจากการเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวของฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งหากย้อนดูในอดีต ดัชนีค่าระวางมักจะ peak ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. ของปี ทำให้ฝ่ายวิจัยคาดว่าค่าระวางอาจ peak ในไตรมาส 3/64 จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 24.00 บาท

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp