UPA ล้มดีลซื้อกิจการ ‘โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล กรุ๊ป (GTG)’ แต่ยังจับมือลุยธุรกิจกัญชา พร้อมเดินตามแผน เพิ่มทุนขายผู้ถือหุ้นเดิม

137

บมจ.ยูไนเต็ด เพาเวอร์ออฟ เอเชีย (UPA) แจ้งว่าคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทยกเลิกการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล กรุ๊ป จำกัด (GTG) ตามที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2564 ประชุมเมื่อวันที่ 16 ก.ค.64 เนื่องจากผู้ถือหุ้นกลุ่มผู้ก่อตั้ง (Founders) บางรายได้ปฏิเสธข้อเสนอขอซื้อหุ้นสามัญของ GTG ของบริษัทฯ ซึ่งทำให้บริษัทไม่สามารถซื้อหุ้นของ GTG ในสัดส่วน 96.49% ของทุนจดทะเบียนของ GTG ตามแผนการเข้าลงทุนในสัดส่วน 99.99% เพื่อให้มีอำนาจควบคุมโดยเด็ดขาด (absolute control)

ปัจจุบัน UPA ถือหุ้นใน 3.98% ของทุนจดทะเบียนของ GTG ณ วันที่ 9 ส.ค.64 ผ่านบริษัท แคนนา แคร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย

อย่างไรก็ดี การเจรจาเพื่อยกเลิกรายการเข้าลงทุนเป็นไปได้ด้วยดีและมิได้กระทบถึงความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างบริษัทและ GTG ซึ่งบริษัทก็ยังคงถือหุ้นและเข้าลงทุนใน GTG ผ่าน แคนนา แคร์ และยังคงมีสิทธิในการเข้าร่วมลงทุน (Joint Venture) กับ GTG ในการเพาะปลูกกัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ในทางการแพทย์ ภายใต้สัญญาจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน ลงวันที่ 29 เม.ย.564 ระหว่างบริษัทและ GTG

นอกจากนี้ เนื่องจากการเพิ่มทุนและการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 8,449,719,031 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ให้แก่ บริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นทั้ง 4 บริษัท ตามที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2564 เป็นการเพิ่มทุนและการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อรองรับการเข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญของ GTG

คณะกรรมการบริษัทจึงอนุมัติยกเลิกการเพิ่มทุนและการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว
และ ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้ แคนนา แคร์ เข้าซื้อหุ้น GTG จาก นางสาวกนกพร ศีตวรรัตน์ นางสาวพลอย ปิ่นแสง นายวิรุณ ชาญวิทยารมณ์ นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ และนางสาวสุภารัตน์ สง่าเมือง จำนวนรวม 5 ราย ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยของ GTG ที่ยังคงมีความประสงค์ที่จะเสนอขายหุ้นสามัญของ GTG โดยมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 940,767 หุ้น ในราคา 226.09 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่ารวมจำนวน 212.70 ล้านบาท และภายหลังจากการทำรายการข้างต้นเสร็จสมบูรณ์ แคนนา แคร์ จะถือหุ้น GTG คิดเป็นสัดส่วน 14.62% ของทุนจดทะเบียนของ GTG

ถึงแม้บริษัทฯ จะต้องยกเลิกรายการซื้อหุ้น GTG ในสัดส่วน 96.49% แต่บริษัทยังเห็นว่า GTG ยังคงเป็นธุรกิจที่น่าสนใจและมีศักยภาพที่จะสร้างรายได้ที่มั่นคงในอนาคต ประกอบกับบริษัทมีความสัมพันธ์อันดีกับ GTG และผู้ถือหุ้นรายอื่นของ GTG ติดต่อมายังบริษัทเพื่อขายหุ้นของ GTG ในราคา 226.09 บาทต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าราคาเสนอขายในรายการซื้อหุ้น GTG ที่ถูกยกเลิกไป บริษัทจึงตัดสินใจเข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญของ GTG เพิ่มเติม โดยบริษัทจะชำระค่าตอบแทนเป็นเงินสด โดยไม่จำเป็นต้องมีการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อชำระค่าซื้อหุ้นสามัญของ GTG แต่ประการใด

ขณะที่ ที่ประชุมคณะกรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 เพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 2 (UPA-W2) จำนวน 2,026,068,585 หน่วย ซึ่งจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ในอัตรา 5 หุ้นเดิม ต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยจะกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรร (Record Date) ในวันที่ 15 ธ.ค.64

อีกทั้งจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม อัตราส่วนการจองซื้อที่จำนวน 3.376780975 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ (คิดเป็นจำนวนหุ้นที่ใช้ในการจัดสรรทั้งสิ้น 3,000,000,000 หุ้น) ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.30 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกิน 900 ล้านบาท กำหนดวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทวันที่ 17-21 ม.ค.65
ทั้งนี้ บริษัทจะเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 2,513,034,292.50 บาท จาก 5,065,171,462.50 บาท เป็น 7,578,205,755.00 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) จำนวน 3,000,000,000 หุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ W2 จำนวน 2,026,068,585 หุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท

การเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้บริษัทมีแหล่งเงินทุนสำหรับนำไปใช้ในการลงทุนในโครงการที่มีอยู่หรือโครงการใหม่ ๆ ของ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และความสามารถในการขยายกิจการ, บริษัทจะมีสภาพคล่องมากขึ้นจากเงินทุนหมุนเวียนที่ได้รับจากการเพิ่มทุน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

รวมทั้งเป็นการขยายฐานทุนเพื่อเตรียมความพร้อมในด้านฐานะทางการเงิน ในกรณีที่บริษั มีความจำเป็นต้องจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจในอนาคต และ ไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิออกเสียงของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ (Control Dilution) ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นทุกรายจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสิทธิของตน

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp