อัปเดทสถานการณ์หุ้นกลุ่มเหมืองคริปโต หลังกรรมการออกมาเป่านกหวีด

379

สรุปเงินไหลเข้า-ออกใน 10 วันทำการตลาด

AJA +346 ล้านบาท

ECF +284 ล้านบาท

JTS +147 ล้านบาท

UPA +924 ล้านบาท

ZIGA + 2194 ล้านบาท

รวมทั้งสิ้น +3895 ล้านบาท

 

การประดับยศ โดยตลาดหลักทรัพย์

AJA ติด T3 ระหว่าง 15 ก.พ. – 07 มี.ค. ตลาด SET

ECF ติด T1 ระหว่าง 15 ก.พ. – 07 มี.ค. ตลาด MAI

UPA ติด T1 ระหว่าง 14 ก.พ. – 25 มี.ค. ตลาด MAI

ZIGA ติด T1 ระหว่าง 17 ก.พ. – 08 มี.ค. ตลาด MAI

 

รูปแบบทางเทคนิคอล Elliott Wave คือ Type I Buy พักตัวในแนวโน้มขาขึ้น เพื่อขึ้นต่อการประกาศติดเครื่องหมาย “T” หลังตลาดปิด ส่งผลกระทบเชิงลบต่อนักลงทุน ตลาดควรทำอย่างไร เพื่อแก้ปัญหานี้

ปล.เงินเข้าไปกองอยู่ โดยปกติเค้าก็ต้องดันต่อก่อนจะเอาเงินออกครับ ดังนั้นสตอรี่เหมืองคริปโตยังไม่จบลงง่ายๆหรอกครับ

NOTE: T1 (Trading Alert Level 1) : ระดับ 1 Cash Balance

หมายความว่า นักลงทุนต้องซื้อหลักทรัพย์ด้วยบัญชีแคชบาลานซ์เท่านั้น โดยวางเงินสดไว้กับโบรกเกอร์เต็มจำนวนก่อนซื้อหลักทรัพย์

T2 (Trading Alert Level 2) : ระดับ 2 ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance

หมายความว่า ห้ามโบรกเกอร์ใช้หลักทรัพย์เป็นหลักประกันในการคำนวณวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ในทุกประเภทบัญชี

T3 (Trading Alert Level 3) : ระดับ 3 ห้าม Net Settlement, ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance

หมายความว่า ห้ามโบรกเกอร์หักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (ซื้อและขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน ค่าขายคืนเป็นวงเงินในวันทำการถัดไป)

ทั้งนี้ มาตรการกำกับการซื้อขาย มีปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณา คือ อัตราหมุนเวียนการซื้อขาย (Turnover ratio) มูลค่าการซื้อขาย และราคาซื้อขาย ที่ไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน เช่น P/E Ratio เป็นต้น

โดยม้าเฉียวดูหุ้น The Future

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp