บลจ.วี แนะนำลงทุนหุ้นยุโรป มองเศรษฐกิจเติบโตโดดเด่น เปิด IPO WE-EUROPE8M ลงทุนเชิงรุก แบบมีเป้าหมายเลิกโครงการ 6% ใน 8 เดือน*

57

“เศรษฐกิจยูโรโซนเติบโตโดดเด่น หนุนปรับประมาณกำไรบริษัทจดทะเบียนพุ่งในปีนี้  บลจ.วี มองถึงแม้ตลาดมีความกดดันและผันผวนในช่วงนี้ แต่ก็ยังเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน จากระดับราคาหุ้นยุโรปที่ยังไม่สูง  เป็นจังหวะลงทุนระยะสั้น

ส่งกองทริกเกอร์  “กองทุนเปิด วี ยุโรป 8M (WE-EUROPE8M) ” ลงทุนแบบมีเป้าหมายเลิกโครงการ 6% ใน 8 เดือน*

 IPO วันที่ 21 – 25 กุมภาพันธ์ 2565 ชูกลยุทธ์ลงทุนผสมจากผู้จัดการกองทุน หุ้น Value, หุ้น Momentum Play และหุ้นกลุ่มรถยนต์ สร้างโอกาสลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีในระยะสั้น”

นายอิศรา พุฒตาลศรี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด (บลจ.วี)  เปิดเผยว่า เศรษฐกิจยุโรปมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างน่าสนใจ โดยคาดว่าในปี 2022 เศรษฐกิจยุโรปจะขยายตัวที่ระดับ +3.9% ดีกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ +3.8% และดีกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ +3.5% และส่งผลบวกไปถึงบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจากข้อมูล 6 เดือนย้อนหลัง พบว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปไม่รวมอังกฤษ  (Europe equity ex. UK) ถูกปรับประมาณการขึ้นมากกว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนทั่วโลก (Global equity) โดยเฉพาะตั้งแต่ต้นปี 2022 เป็นต้นมาที่ตลาดหุ้นได้ปรับฐานลงทั่วโลกแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งของหุ้นยุโรป และความมั่นใจของนักวิเคราะห์ที่มากกว่า

(ที่มา: Citi Global Wealth Investment Outlook 2022 as of 2 Dec 2021 และ Bloomberg as of 28 Jan 2022)

 

“ปัจจุบันตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวได้ก่อนตลาดสหรัฐฯ แม้ว่าช่วงตั้งแต่ต้นปี 2022 ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรปจะปรับตัวลดลงอย่างมากตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่สามารถฟื้นตัว (Rebound) ได้ก่อน แสดงให้เห็นว่านักลงทุนรอจังหวะเข้าซื้อ (Bottom Fishing ) ในตลาดหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนที่แข็งแกร่ง” (ที่มา: Bloomberg as of 28 Jan 2022)

 

นอกจากนี้ หากเปรียบเทียบระดับราคาที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐาน (Valuations) จาก Price to Earnings Ratio (PE) , Price to Book Ratio (PB) , การเติบโตของกำไร (Earnings Growth) และอัตราจ่ายเงินปัน (Dividend Yield) จะพบว่าตลาดหุ้นยุโรปมีความน่าสนใจมากที่สุด เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ  (S&P 500) หรือตลาดหุ้นทั่วโลก (MSCI ACWI Index) นอกจากนี้ตลาดหุ้นยุโรปมีสัดส่วนของหุ้นคุณค่า (Value Stock) มากกว่าตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของ บลจ.วี ที่มองว่าหุ้นคุณค่า (Value Stock) มีโอกาสจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า (Outperform) หุ้นเติบโต (Growth Stock) ที่ราคาปรับเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมากแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ (ที่มา: Bloomberg as of 6 Feb 2022 และ Bloomberg, MSCI and S&P Global. Sector weightings as of  29 October 2021)

 

อีกทั้งตลาดหุ้นยุโรปถือเป็นผู้นำด้านการลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investment) ด้วยการลงทุนตามหลัก ESG (Environment Social Governance) เห็นได้จากร้อยละของบริษัทจดทะเบียนในดัชนี MSCI Europeที่ได้รับการประเมิน ESG Score อยู่ในระดับที่สูงกว่าบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกโดยเฉพาะระดับ AA และ AAA เป็นต้น (ที่มา: MSCI ESG Research as of 30 November 2021)

 

สำหรับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังต้องติดตามสถานการณ์โดย บลจ. วี คาดว่ามีโอกาสความเป็นไปได้ที่เหตุการณ์ดังกล่าวจะจบลงด้วยการที่รัสเซียผนวกภาคตะวันออกของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเช่นเดียวกับกรณีไครเมียร์ หรืออาจเกิดการเจรจาสันติภาพขึ้นจากทั้งสองฝ่ายด้วยการถอยคนละก้าว คือรัสเซียถอนกำลังทหาร และยูเครนยุติหรือระงับแผนการเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต้ ดังนั้นจากกลยุทธ์การลงทุน กองทุนเปิด วี ยุโรป 8M (WE-EUROPE8M) ที่ผู้จัดการสามารถปรับพอร์ตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ จึงเป็นโอกาสเข้าลงทุนจากความผันผวนในระยะสั้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อพิจารณาขายทำกำไรในระยะถัดไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆด้วย

ดังนั้นจึงเป็นจังหวะดีสำหรับการลงทุนในหุ้นยุโรป บลจ.วี จึงเปิดเสนอขาย IPO  “กองทุนเปิด วี ยุโรป 8M (WE-EUROPE8M)” เสนอขายครั้งแรกวันที่ 21 – 25 กุมภาพันธ์ 2565  ลงทุนแบบมีเป้าหมายเลิกโครงการ  6% ในระยะเวลา 8 เดือน หรือเมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.63 บาทต่อหน่วย และต้องไม่ต่ำกว่า 10.60 บาทต่อหน่วย

 

โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนเชิงรุกในหุ้นกลุ่มประเทศยุโรปที่มีแนวโน้มเติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ผ่านกองทุน ETF หรือหุ้นรายตัวซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นยุโรป หรือหุ้นที่มีรายได้จากการประกอบธุรกิจในยุโรปเป็นหลักที่คัดเลือกโดยผู้จัดการกองทุนที่เชี่ยวชาญ ซึ่งเน้นจับจังหวะตลาดในช่วงที่ระดับราคาน่าสนใจและมีปัจจัยพื้นฐานการเติบโตดี

 

ด้านกลยุทธ์ เน้นลงทุนแบบผสมผสานในหุ้นคุณค่า (Value Play) ผ่าน กองทุน iShares Edge MSCI Europe Value Factor UCITS ETF) ในสัดส่วนประมาณ 30% และลงทุนใน หุ้นกำลังเติบโตขาขึ้น (Momentum Play) ผ่านกองทุน iShares Edge MSCI Europe Momentum Factor UCITS ETF ในสัดส่วนประมาณ 40% เพื่อให้ผู้จัดการกองทุนสามารถปรับพอร์ตให้เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนผ่านนโยบายการเงิน จากแบบผ่อนคลาย (Loosening Policy) ไปสู่แบบตึงตัว (Tightening Policy) หุ้นทั้ง 2 กลุ่มดังกล่าวมีโอกาสให้ผลตอบแทนสอดคล้องกับจังหวะตลาดได้

 

นอกจากนี้เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน และเห็นว่าหุ้นกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วน (Automobiles & Parts) ในยุโรป มีระดับราคาที่ค่อนข้างต่ำ ระดับ PE เพียงประมาณ 5.59 ซึ่งมีการเติบโตที่สูงจากการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีไปใช้พลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicles) ในอนาคต จึงเลือกลงทุนผ่าน กองทุน iSharesSTOXX Europe 600 Automobiles & Parts UCITS ETF  ในสัดส่วนประมาณ 30%  (ที่มา : We Asset Management as of  7 Jan 2022)

 

อย่างไรก็ตามอัตราส่วนดังกล่าวบริษัทจัดการจะใช้ดุลพินิจในการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินที่ลงทุนหรือสัดส่วนการลงทุนได้ต่อเมี่อเป็นการดำเนินการภายใต้สถานการณ์ที่จำเป็นและสมควรเพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ โดยไม่ทำให้ความเสี่ยงของทรัพย์สินที่ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้

 

ตัวอย่างบริษัทที่ลงทุนเช่น

 

MBG  Mercedes-Benz Group AG : ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายรถยนต์ รถบรรทุก และรถตู้ ภายใต้แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองชตุทท์การ์ท ประเทศเยอรมนี

 

STLA  Stellantis NV Common Shares : บริษัทรถยนต์ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตรถยนต์และให้บริการด้านต่างๆ เช่น การเคลื่อนย้าย ออกแบบ วิศวกร ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์ เช่น Fiat, Jeep, Opel, Peugeot, Vauxhall และ Ram บริษัทมีสำนักงานใหญ่ในเมือง Lijnden ประเทศเนเธอร์แลนด์

 

BATS British American Tobacco PLC: จัดทำผลิตภัณฑ์ยาสูบและนิโคตินให้กับผู้บริโภคทั่วโลก

 

MC LVMH Moet Hennessy Louis Vuitton SE LVMH: ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น แชมเปญ ไวน์ ผลิตภัณฑ์แฟชั่นและเครื่องหนัง เช่น Fendi, Givenchy, Kenzo, Louis Vuitton, Marc Jacobs เป็นต้น

 

NOVO B Novo Nordisk A/S Class B: บริษัทด้านการดูแลสุขภาพ มีส่วนร่วมในการวิจัย พัฒนา การผลิต และการตลาดของผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมทั่วโลก

 

“บริษัทจดทะเบียนในยุโรปมีแนวโน้มที่ผลกำไรจะเติบโตอย่างน่าสนใจ และด้วยการระบาดของโควิด-19 ที่จบลงไปแล้วในหลายประเทศ แม้ว่าอาจจะมีความกังวลเรื่องความไม่สงบเรื่องรัสเซียกับยูเครน แต่มองว่าเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นเมื่อมีการย่อตัวลง บลจ.วี จึงอยากแนะนำโอกาสสำหรับสร้างผลแทนที่ดีในระยะสั้นจากตลาดหุ้นยุโรป ผ่าน “กองทุนเปิด วี ยุโรป 8M (WE-EUROPE8M)”  ที่มีปัจจัยสนับสนุนและด้วยกลยุทธ์ลงทุนที่โดดเด่น” นายอิศรา กล่าว

 

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมพร้อมรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด (“บลจ.วี”) โทรศัพท์ 02-351-1800 กด 2 หรือตัวแทนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของ บลจ.วี ได้แก่ บล.เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน), บล.หยวนต้า , บล.โนมูระ, บล.เคจีไอ, บล.เอเชียเวลท์, บล.ฟิลลิป, บล.กรุงศรี, บล.ไทยพาณิชย์,  บล.เอสบีไอ ไทย ออนไลน์,บล.คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน),  บลน.โรโบเวลธ์, บลน.ฟินโนมินา,  บลน.เวลท์ รีพับบลิค, บลน.เว็ลธ์เมจิก, บลน. แอสเซนด์ เวลธ์ และ บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน)

 

  • ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
  • การกำหนดเป้าหมาย 10.63 บาทต่อหน่วยไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา 8 เดือนแรกได้ การกำหนดมูลค่าหน่วยลงทุนที่เป็นเป้าหมายเป็นเพียงเหตุให้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนเป็นไปตามเป้าหมายเท่านั้น และไม่ใช่เป็นการประมาณการหรือรับประกันว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนตามมูลค่าที่กำหนดเมื่อมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ทั้งนี้ หากภาวะตลาดหรือภาวะการลงทุนเปลี่ยนแปลงไปจากการคาดการณ์ กองทุนรวมอาจไม่ดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติก็ได้ ซึ่งหากกรณีที่ไม่เกิดเหตุตามเงื่อนไขการเลิกกองทุน ภายใน 8 เดือนนับจากวันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม บริษัทจัดการจะเปิดขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอีกครั้งในวันทำการแรกถัดจากวันครบกำหนดระยะเวลา 8 เดือน นับแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม
  • จำนวนเงินที่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับจากการเลิกกองทุนเมื่อเกิดเหตุการณ์ตามเงื่อนไขในการเลิกกองทุนดังกล่าว เมื่อคำนวณเป็นราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุนอาจมีมูลค่าต่ำกว่า 10.60 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นมูลค่าหน่วยลงทุนที่กำหนดเป็นเงื่อนไขในการเลิกกองทุน เนื่องจากการหักค่าใช้จ่าย การกันสำรองค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องของกองทุน (ถ้ามี) อัตราแลกเปลี่ยน และ/หรือการปรับตัวขึ้นลงของราคาหรือผลตอบแทนของหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่กองทุนลงทุนในระหว่างที่กองทุนดำเนินการจำหน่ายหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินดังกล่าว
  • เนื่องจากกองทุนนี้มีการลงทุนในต่างประเทศและไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน โดยป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
    🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

    https://lin.ee/cXAf0Dp