JCKH รุกธุรกิจปี 65 ปรับปรุงสาขา “DAIDOMON” จ่อเปิด “Burger&Lobster” เจรจาซื้อลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ในเอเชีย เทคโอเวอร์โรงแรมในจังหวัดเชียงราย มั่นใจปีนี้ขาดทุนลดลง

537

มิติหุ้น-JCKH เปิดแผนธุรกิจปี 65 ตั้งเป้าหมายปรับปรุงร้านอาหาร “DAIDOMON” จ่อเปิดตัว Burger&Lobster ที่พารากอน และเจรจาขอซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์ประเทศในแถบเอเชีย พร้อมกับใช้เงินลงทุน 450 ล้านบาทเข้าเทคโอเวอร์โรงแรมในจังหวัดเชียงราย 3 แห่ง รวม 350 ห้อง คาดจะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 300 ล้านบาท มั่นใจผลประกอบการในปีนี้สดใส ลดขาดทุน

นายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด(มหาชน) หรือJCKH  เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศยังคงเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่กลับพบว่าประชาชนสามารถปรับตัวและเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ ก่อให้เกิดการบริโภค ดังเห็นได้ว่ายอดขายผ่านร้านอาหารภายใต้การบริหารของ JCKH ที่มีจำนวน 80 สาขา ใน 3 แบรนด์ ประกอบด้วย ร้านชาบู HOTPOT ร้านปิ้งย่าง DAIDOMON  และร้านอาหารจีน เจิ้ง โต่ว พบว่ามียอดขายที่ดีขึ้น

ด้วยเหตุนี้ทำให้บริษัทฯมีความมั่นใจในสถานการณ์การบริโภคในประเทศ กำหนดแผนปรับปรุงสาขาเดิมและเปิดสาขา DAIDOMON รวม 15 สาขา เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันนิยมการทานปิ้งย่างมากขึ้น      ขณะเดียวกันเตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ โดยได้ซื้อลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ร้านอาหารสัญชาติอังกฤษ Burger&Lobster” คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนพฤษภาคม นี้ ที่ศูนย์การค้าพารากอน จำนวน 1 แห่ง และเตรียมเปิดในปีนี้อีก1 สาขา ปี 2566 อีก 2 สาขา และอยู่ระหว่างเจรจาขอซื้อลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ประเทศในแถบเอเชีย คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้

นอกจากนี้ JCKH ได้ใช้เงินลงทุนราว 450 ล้านบาท เพื่อซื้อโรงแรมที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 3 แห่ง รวม 350 ห้อง คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการภายในปีนี้ 1 แห่ง และกลางปี 2566 อีก 2 แห่ง คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาทต่อปี โดยจะรับรู้รายได้จากการลงทุนเต็มปีตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป รองรับการเติบโตในอนาคต สาเหตุที่บริษัทฯให้ความสำคัญกับจังหวัดเชียงรายเนื่องจากเป็นจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญของประเทศแล้ว ยังพบว่าจะได้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงการเดินทางไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และจีน จะก่อให้เกิดการค้าและการลงทุนตามมา

“ด้วยการลงทุนข้างต้นทำให้บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่า ยอดขายในปี 2565 นี้ น่าจะเพิ่มสูงกว่าปีที่ผ่านมา นอกจากการขยายสาขาและปรับปรุงสาขาเดิมแล้ว บริษัทฯยังเน้นการบริหารจัดการต้นทุนอาหารและค่าใช้จ่ายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในปีนี้มุ่งหวังให้ผลขาดทุนลดลงและแสดงกำไรสุทธิให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างรากฐานในการขยายธุรกิจในอนาคต” นายอภิชัยกล่าว

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp