JMART – JMT ควงคู่ ยกระดับการลงทุนเข้าสู่ SET50 ด้าน SINGER ยัง SET100 และเข้า SETWB  ดีเดย์ 1 ก.ค. 65

76

มิติหุ้น – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศผลการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 (1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม) พบ บมจ. เจ มาร์ท (JMART) และบมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) เป็น 2 บริษัทหลักทรัพย์เข้าใหม่
เพิ่มน้ำหนักการลงทุนของกองทุนอย่างต่อเนื่อง สะท้อนการเป็นกลุ่มบริษัทที่อยู่ในใจนักลงทุน กองทุนมายาวนาน ขณะที่ กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจโดดเด่น ด้วยพลัง Super Synergy Ecosystem ในเครือเจมาร์ท และการมีบริษัทพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศไว้วางใจ ด้าน บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ยังคงอยู่ใน SET100 และเข้าดัชนี SETWB หนุนความน่าสนใจในการลงทุน

โดย นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจ มาร์ท (JMART) Technology Investment Holding Company (T-IHC) เปิดเผยว่า นับเป็นการสะท้อนความแข็งแกร่งของ JMART JMT  และ SINGER ตลอดจนบริษัทในเครือที่ขับเคลื่อนธุรกิจได้ตามเป้าหมาย และการขยายไปยังโอกาสใหม่ๆ ครอบคลุมด้านธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจการเงิน และเทคโนโลยี แบบที่ไม่มีบริษัทไหนในตลาดหลักทรัพย์มี พิสูจน์ด้วยผลการดำเนินงานสามารถบันทึกสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง อีกทั้ง การต่อจิ๊กซอว์ร่วมกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ สนับสนุนโอกาสในระยะยาว นอกจากนี้ การเติบโตของของ JMT ภายใต้การนำของ “นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพแบบไม่มีหลักประกันอันดับหนึ่งของประเทศ สามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ถือหุ้นและนักลงทุน ควงคู่ยกระดับการลงทุนสู่ตลาด SET50 ได้อย่างเต็มภาคภูมิ แย้มเตรียมเปิดแผน Joint Venture  กับกลุ่มธุรกิจธนาคารกสิกรไทยเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ดี สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายในหลายประเทศทั่วโลก และเริ่มมีการเปิดประเทศให้สามารถเดินทางได้ กลุ่มบริษัทเจมาร์ทได้นำทัพทีมผู้บริหารเดินสายโรดโชว์พบปะนักลงทุนและกองทุนชั้นนำในต่างประเทศเช่นกัน นับเป็นการสะท้อนความน่าสนใจของกลุ่มบริษัท อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสในการนำเสนอ พบปะ แนะนำข้อมูลกลุ่มธุรกิจให้เกิดความเชื่อมั่นในอนาคตได้

นอกจากนี้ SINGER ที่นำโดย “นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ หนึ่งในผู้นำธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และเข้าถึงลูกค้าผ่านตัวแทนขายที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ เป็นโมเดลการขายที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 130 ปี สามารถยืนได้ในดัชนี SET100 และยังเข้าดัชนี SET Well Being Index หรือ SETWB ดัชนีที่สะท้อนการเคลื่อนไหวของกลุ่มหลักทรัพย์ 30 หลักทรัพย์ใน 7 หมวดธุรกิจที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันและเป็นธุรกิจที่ผู้ลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ รวมทั้ง ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทย จึงนับเป็นความภาคภูมิใจของคณะผู้บริหารและทีมงานทุกคน

สำหรับการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนีดังกล่าวจะดำเนินการทุกครึ่งปี และเป็นไปตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด ทั้งนี้ การทบทวนในครั้งนี้ใช้ข้อมูลระหว่าง 1 มิถุนายน 2564 ถึง 31 พฤษภาคม 2565

อย่างไรก็ดี JMART GROUP ยังคงตั้งเป้าหมายการเติบโตต่อเนื่อง วางปี 65 เป็นปีแห่งการต่อยอดพันธมิตร ด้วย 3 กลยุทธ์หลักด้าน Synergy – New Partner – New Business เพื่อสนับสนุนการเติบโตแบบ Exponential Growth โดย JMART ตั้งเป้าปี 65 กำไรโต 50%

ด้าน JMT วางเป้าหมายกำไรเติบโต 45% จากภาพรวมหนี้ด้อยคุณภาพในระบบที่ทยอยออกมาเพิ่มขึ้นในปีนี้ โดยวางงบลงทุนซื้อหนี้ไว้ราว 10,000 ล้านบาท ทั้งหนี้ด้อยคุณภาพแบบมีหลักประกัน และไม่มีหลักประกันเข้ามาบริหาร

ขณะที่ SINGER วางเป้าหมายเติบโตแรงที่ระดับ 75% และมุ่งสู่เป้าหมายมีร้านสาขาย่อยและแฟรนไชส์ 7,000 แห่ง เป็น Hub ในการขยายผลิตภัณฑ์ บริการ และเครือข่ายที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วประเทศ ส่วนพอร์ตสินเชื่อรวมคาดสิ้นปีอยู่ที่ 15,500 ล้านบาท จากปีก่อนมีพอร์ตรวมอยู่ที่ 10,962 ล้านบาท และไฮไลท์ ในการนำบริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (SGC) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปีนี้ ปัจจุบัน ยื่นไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp