วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

104

ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น หลังปริมาณนำเข้าและส่งออกของประเทศจีนปรับตัวดีขึ้น

+ ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น จากรายงานของศุลกากรจีนระบุว่า ปริมาณส่งออกของจีนในเดือน ก.ค. ปรับตัวสูงขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ในขณะที่ปริมาณนำเข้าปรับตัวขึ้น 2.3% ในช่วงเดียวกัน เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ดุลการค้าในจีนแตะระดับสูงสุดที่ 1.013 แสนล้านดอลลาร์ รายงานระบุเพิ่มเติมว่า ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของจีนอยู่ที่ 8.79 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีในเดือน มิ.ย.

+/- ความต้องการน้ำมันดิบของประเทศอินเดียที่นำเข้าจากประเทศรัสเซีย ปรับตัวสูงขึ้น สนับสนุนให้อินเดียเป็นประเทศที่มีปริมาณนำเข้าทางเรือสูงสุดในเดือน ก.ค. ในขณะที่ปริมาณนำเข้าน้ำมันดิบ ESPO ของจีนปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 18.1 ล้านบาร์เรล ลดลง 27% จากระดับสูงสุดในเดือน มิ.ย.

+ นักวิเคราะห์ Goldman Sachs คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะทรงตัวในระดับสูงจากภาวะอุปทานขาดตลาด โดยคาดว่าความต้องการน้ำมันในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในครึ่งปีหลัง และเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2566

ราคาน้ำมันเบนซิน – ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานที่คาดว่าจะลดลงในประเทศเกาหลีใต้จากการปิดซ่อมบำรุง ในขณะที่ในประเทศอินโดนิเซียมีความต้องการในนำเข้าน้ำมันเบนซินจากประเทศในภูมิภาคแต่ติดขัดการปัญหาการขนส่ง

ราคาน้ำมันดีเซล – ปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นในประเทศญี่ปุ่นจากการกลับมาผลิตหลังจากปิดซ่อมบำรุงในเดือน ก.ค. ประกอบกับส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลจากตะวันออกกลางถึงยุโรปปรับตัวติดลบตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค.

 

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp