วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

88

 

ราคาน้ำมันดิบปรับลด จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยในจีน

– ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลดลงกว่า 3% หลังจากมีสัญญาณของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในจีน เนื่องมาจากผลกระทบของนโยบายปลอดโควิคในปักกิ่ง รวมถึงวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ธนาคารกลางของจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า ในเดือนกรกฎาคม ภาคอุตสาหกรรมในประเทศขยายตัวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ในขณะที่ธนาคาร ING ได้ปรับลดตัวเลข GDP ลงสู่ระดับ 4% จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 4.4%

-/+ ค่าเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ ยังคงแข็งตัวขึ้นกว่า 10% สวนทางกับค่าเงินยูโรและหยวนที่อ่อนตัวลงเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ในขณะที่ในสหรัฐฯ เริ่มมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงนั้นใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว โดยมีการเปิดเผยตัวเลขราคานำเข้าของสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งปรับตัวลดลงกว่า 1.4% เป็นครั้งแรกในรอบเจ็ดเดือน หลังจากที่มีการปรับเพิ่มขึ้น 10.7% ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

– ตลาดยังคงจับตาดูผลการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน โดยมีสหภาพยุโรปเป็นตัวกลาง หลังจากที่มีการเจรจาร่วมกันกว่า 16 เดือน โดยนักวิเคราะห์คาดว่าปริมาณน้ำดิบในตลาดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หากสหรัฐฯ และอิหร่านยอมรับข้อเสนอจากสหภาพยุโรปจนสามารถบรรลุข้อตกลงได้ ซึ่งจะส่งผลให้อิหร่านสามารถส่งออกน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดได้มากขึ้น

ราคาน้ำมันเบนซิน-ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในศรีลังกา อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินส่งออกจากอินเดียที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มมากขึ้นจากการที่อุปสงค์ในประเทศชะลอตัวลงในช่วงฤดูมรสุม

 

ราคาน้ำมันดีเซล-ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวลดลง รวมทั้งอุปสงค์ที่เพิ่มมากขึ้นในอินโดนีเซียและศรีลังกา อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากอินเดียและเกาหลีใต้

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp