SMD ผลงานแรงทุบสถิติ กำไรโตทะลุ 200%

193

 

 

‘SMD’ ทุบสถิติผลการดำเนินงานมีรายได้และกำไรครึ่งปีแรกสูงสุด ทำรายได้ 1,398.67 ล้านบาท เติบโตขึ้น 188.38% และมีกำไรสุทธิ 223.43 ล้านบาท เติบโตขึ้น 202.17% ด้านบอร์ดฯ อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น พร้อมเดินหน้าขยายน่านน้ำใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจ

บมจ.เซนต์เมด (SMD) ผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ในประเทศไทย เผยผลงานไตรมาส 2/65 กวาดรายได้รวม 690.02 ล้านบาท เติบโต 109.37% และมีกำไรสุทธิ 86.72 ล้านบาท เติบโต 31.40% ส่งผลให้งวด 6 เดือน มีรายได้รวม 1,398.67 ล้านบาท เติบโตขึ้น 188.38% กำไรสุทธิ 223.43 ล้านบาท เติบโตขึ้น 202.17% โชว์ฟอร์มทำสถิติมีรายได้และกำไรครึ่งปีแรกสูงสุด  ด้านบอร์ดฯ อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น ประกาศย้ำเป้ารายได้ปี 65 ไม่ต่ำกว่า 2,100 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าขยายน่านน้ำใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจ

ดร.วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) หรือ SMD ผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2565 (เมษายน-มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการบริการ จำนวน 690.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 109.37% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 329.56 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 86.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 66 ล้านบาท ซึ่งได้รับผลบวกจากความต้องการสินค้าเครื่องมือแพทย์เพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะชุดตรวจคัดกรองโควิด-19 แบบเร่งด่วน (SARS-CoV-2 Antigen Rapid Test) หรือ ATK ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19  สายพันธุ์โอมิครอน

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มสินค้าด้านเวชบำบัดวิกฤต คิดเป็นสัดส่วน 14.34% กลุ่มการช่วยหายใจและเวชศาสตร์การนอนหลับคิดเป็นสัดส่วน 9.44% กลุ่มหทัยวิทยาคิดเป็นสัดส่วน 2.73% กลุ่มเครื่องมือแพทย์ทั่วไป คิดเป็นสัดส่วน 73.28% และกลุ่มสมาร์ทฮอสพิทอล คิดเป็นสัดส่วน 0.15% เป็นต้น โดยมีสัดส่วนรายได้จากลูกค้าที่เป็นภาครัฐ 22.16% และลูกค้าภาคเอกชน 77.84%

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SMD กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่อง บริษัทฯ ได้ปรับเพิ่มเป้ารายได้ในปี 2565 จากเดิม 1,800 ล้านบาท เพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 2,100 ล้านบาท โดยจะมีรายได้ใน Q3/2565 ไม่ต่ำกว่า 450 ล้านบาท พร้อมกันนี้ SMD ได้เดินหน้าต่อยอดธุรกิจเดิมรวมถึงขยายธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตแบบสมดุล  ยั่งยืน และรุ่งเรืองร่วมกัน ผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่

  • ธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์เดิม แต่มีการเพิ่มสินค้าใหม่สำหรับผู้ป่วย Long COVID เช่น เครื่องตรวจสมรรถภาพปอดระดับสูง (Lung Function Test) แบบ Bodystik เครื่องเพิ่มสมรรถภาพการไหลเวียนโลหิต (EECP) และเครื่องผลิตออกซิเจนขนาดเล็กแบบพกพาติดตัว (Portable Medical Oxygen Concentrator) เครื่องบำบัดด้วยออกซิเจนความกดบรรยากาศสูง (Hyperbaric Chamber) เป็นต้น
  • ธุรกิจบริการให้เช่าใช้เครื่องมือแพทย์ (Leasing) รองรับความต้องการของภาครัฐ ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา SMD ชนะการประมูลเช่าใช้เครื่องมือแพทย์ในโรงพยาบาลรัฐหลายแห่ง จำนวนหลายรายการ
  • ธุรกิจด้านซอฟแวร์ทางการแพทย์พร้อมฮาร์ดแวร์เชื่อมต่อกับระบบ HIS ของโรงพยาบาล (Health Tech) ถือเป็นการนำระบบซอฟแวร์ Telemedicine ต่างๆ มาเชื่อมต่อระหว่างเครื่องมือแพทย์เพื่อไปสู่ Hospital Information System ของโรงพยาบาล รวมถึงการจัดจำหน่ายระบบ Hospital Information System โดยบริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท อีซีฟาย เทคโนโลยี จำกัด ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ระบบ EzHMIS เป็นระยะเวลา 3 ปี (ลงนามในสัญญาการเป็นตัวแทนจำหน่าย เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2565)
  • ธุรกิจจำหน่ายเครื่องมือแพทย์สำหรับใช้ดูแลสุขภาพด้วยตัวเองที่บ้าน (SAINTmed 24/7 Selfcare Vending Machine) เพื่อรองรับความต้องการของประชาชน โดยเป็นการขายสินค้าเครื่องมือแพทย์ต่างๆ เช่น เครื่องวัดความดันโลหิตแบบดิจิตอล เครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจขณะออกกำลังกาย ปรอทวัดไข้ดิจิตอล วิตามิน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และ ATK เป็นต้น ผ่านช่องทางตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ Vending Machine ซึ่งหน้าจอเป็นระบบทัชสกรีนขนาดใหญ่ จ่ายเงินสะดวกด้วยระบบ QR code บัตรเครดิต เงินสด ธนบัตรทุกชนิด เหรียญทุกประเภท พร้อมมีระบบทอนเงิน ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน ซึ่ง SMD ได้เซ็นสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเป็นเวลา 3 ปี โดยจะติดตั้งตู้ Vending Machine ชนิดใหม่นี้ในโรงพยาบาลต่างๆให้ได้ 60 ตู้ ภายในปี 2565

“SMD อาจแตกต่างจากบริษัทอื่นๆ เราให้ความสำคัญกับ Business Model และ ESG ที่จะส่งเสริมและสนับสนุนการเติบโตแบบสมดุล ยั่งยืน และรุ่งเรืองร่วมกัน อีกทั้งยังมุ่งเน้นการแสวงหาเครื่องมือแพทย์ที่มีประโยชน์ต่อวงการแพทย์  ทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาพยาบาลที่สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมไปถึงมีอายุยืนยาวมากขึ้น และ/หรือ มีอัตราการรอดชีวิตมากขึ้นในเครื่องมือแพทย์บางประเภท  ดังนั้นสิ่งที่นักลงทุนทุกท่านที่ได้ลงทุนกับหุ้น SMD ไม่ใช่แค่ได้รับผลดีจากเรื่องกำไรหรือผลตอบแทน แต่ยังเป็นเรื่องของประโยชน์ที่ผู้ป่วยจะได้รับตามที่ได้ดังกล่าวมาข้างต้นอีกด้วย”  ดร.วิโรจน์ กล่าว

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp