SCC ทุ่ม 2.1 พันลบ. เทคฯบริษัทจัดการขยะ “Kras” สัญชาติเนเธอร์แลนด์ คาดดีลจบในปี 65

60

มิติหุ้น-SCC หรือบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย แจ้งว่า บริษัท SCG Chemicals Trading (Singapore) Pte. Ltd ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ “SCGC”  ซึ่ง SCC ถือ 100% ได้ลงนามในสัญญาเข้าซื้อกิจการ สัดส่วน60%  ใน Recycling Holding Volendam BV (หรือ “Kras”) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจการจัดการขยะใช้แล้วจากประเทศ เนเธอร์แลนด์ มูลค่าประมาณ 55.1 ล้านยูโร หรือประมาณ 2,100 ล้านบาท ธุรกรรมดังกล่าวคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 2565

ในปี 2564 Kras มียอดขายรวม 92.7 ล้านยูโร หรือ ประมาณ 3,500 ล้านบาท  และมีกำไรสุทธิ 5.5 ล้านยูโร หรือ ประมาณ 210 ล้านบาท  มีสินทรัพย์ 30.5 ล้านยูโร หรือ ประมาณ 1,160 ล้านบาท มีความสามารถใน การจัดหาขยะพลาสติกและกระดาษใช้แล้วอยู่ที่ 160,000 และ 120,000 ตันต่อปี ตามลำดับ ซึ่งเป็นขยะที่มีคุณภาพสูง สำหรับนำไปดำเนินการต่อในห่วงโซ่คุณค่า Circular economy

นอกจากนี้ Kras มีบริษัทย่อยที่ ประกอบธุรกิจเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง โดยปัจจุบัน มีกำลังการผลิต 9,000 ตันต่อปี และจะเพิ่มเป็นสองเท่าในปี 66

การลงทุนในครั้งนี้จะเชื่อมโยงกับกลยุทธ์การเติบโตของธุรกิจเม็ดพลาสติกรีไซเคิลของ SCGC ซึ่งเป็ น ส่วนช่วยให้ SCGC เข้าสู่ธุรกิจพลาสติกรีไซเคิลครบวงจรมากยิ่งขึ้น  โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการจัดเก็บขยะ กระบวนการรีไซเคิลพลาสติก ตลอดจนการแปรรูปเม็ดพลาสติกและส่งมอบให้ลูกค้าในทวีปยุโรป โดยคาดการณ์ความต้องการเม็ดพลาสติกรีไซเคิลในทวีปยุโรป จะเติบโต 10.6% ต่อปี ในอีก 5 ปีตาม  การวิเคราะห์ของ Nexant Energy & Chemicals Advisory (NexantECA)

นอกจากนี้ จะช่วยให้ SCGC สามารถต่อยอดองค์ความรู้ในธุรกิจ ความเชี่ยวชาญ และเครือข่ายของ Kras หลังจากการ เข้าซื้อกิจการใน Sirplaste ซึ่งเป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงในประเทศโปรตุเกสเมื่อเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา

SCGC เป็นบริษัทผู้นำด้านธุรกิจเคมิคอลส์ในภูมิภาคอาเซียน ประกอบธุรกิจในประเทศไทย อินโดนีเซียและเวียดนาม โดยมี 4 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1) ผู้นำด้านเคมีภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน 2) มุ่งขยาย และสร้างความแข็งแกร่งเพื่อเป็นผู้ประกอบธุรกิจไวนิล (Vinyl) ครบวงจร 3) เป็นผู้นำการพัฒนาอย่างยั่งยืนใน ระดับโลกโดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green polymer) โดยมีแผนขยาย ธุรกิจในทวีปยุโรป และ 4) พัฒนาและเร่งการเติบโตของสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA)

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp