NER สุดปัง 8 โบรกฯชี้ แนะนำ “ซื้อ” หลังงบ Q3/65 แจ่ม  

324

มิติหุ้น – บมจ. นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ NER รวมบทวิเคราะห์ทั้ง 8  บริษัท แนะนำ “ซื้อ”  หลังงบ Q3/65 โต 20% qoq จากราคายางพาราที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและการจัดการต้นทุนขายได้ดี

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน : ราคาหุ้นปรับฐานสะท้อนแรงกดดันมากแล้ว

กำไรปกติ 3Q22 ทรงตัว yoy แต่ฟื้นตัวเด่น 39% qoq หนุนจากปริมาณขายที่ฟื้นตัว จากปัญหาขนส่งที่คลี่คลายแล้ว ขณะที่แนวโน้ม 4Q22 เบื้องต้นคาดเติบโตต่อเนื่อง yoy จากการเร่งส่งมอบสินค้าตามเป้า ขณะที่ระยะถัดไปแม้คาดอาจเห็นผลลกระทบราคายางที่ลดลง ในช่วง 1H23 แต่จะชดเชยได้จากปริมาณขายที่ขยายตัว และต้นทุนค่าขนส่งที่ลดลง ภาพรวมจึงยังคงคาดกำไรปกติ ปี 2023 เติบโต 11% yoy ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยมีการ roll over ไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2023 ที่8.3 บาท ยังมี Upside ลงทุนเปิ ด และปันผลสูง…คงคำแนะนำ ซื้อ

บล.เอเซีย พลัส  : จะเห็นการฟื้นตัวต่อเนื่องใน 4Q65

กำไรสุทธิงวด 3Q65 เท่ากับ 529 ล้านบาท ใกล้เคียงคาด เพิ่มขึ้นถึง 38% qoq และ 20% yoy จากปริมาณขายยางพาราเพิ่มขึ้นถึง 40% qoq (แต่ลดลง 11% yoy) มาที่ 1.2 แสนตัน และ Gross margin ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 13.4% ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิงวด 4Q65 จะเติบโตจากงวด 3Q65 จากแนวโน้มปริมาณขายยางพาราเพิ่มขึ้น และคาด gross margin งวด 4Q65 จะยังดีต่อเนื่องคาดกำไรสุทธิปี 2566 จะเพิ่มขึ้น 10% yoy จากแนวโน้มปริมาณขายยางพาราและทิศทางราคายางพาราปรับเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แม้ว่า

ฝ่ายวิจัยจะปรับไปใช้ FV ปี 2566 เท่ากับ 9 บาท อิง PER 8 เท่า ราคาหุ้นปรับฐานไปกว่า 15% YTD สะท้อนความเสี่ยงเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จนล่าสุดมีค่าPER ปี 2566 เพียง 5 เท่า มี Upside อีกกว่า 51% และยังสามารถคาดหวัง DivYields ได้กว่า 7% จึงยังแนะนำ ซื้อ

บล. ดาโอ (ประเทศไทย) : กำไร 3Q22 ดีตามคาด, ราคายางพ้นจุดต่ำสุดแล้ว

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” และ roll over ราคาเป้าหมายไปเป็นปี 2023 ที่ 7.60 บาท อิง 2023E PER 6.0x(+1.0 S.D. above 5-yr average PER) จากเดิมที่ 9.0 บาท อิง PER ที่ 7.1 เท่า (+1.75 S.D.) เรา derate targeted PER ลงจากราคายางตลาดโลก (SICOM future) ที่จะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด จากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว แม้กำไร 3Q22 เติบโตดีตามคาด ที่ 529 ล้านบาท (+20%YoY,+39% QoQ) จาก high season ของการส่งออก และยอดขายบางส่วนที่เลื่อนการส่งมอบจาก 2Q22 ขณะที่ราคาขายยังทรงตัวเนื่องจากบริษัทได้ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไว้กับลูกค้า

เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2022E ที่ 1,941 ล้านบาท (+5% YoY) และปี 2023E ที่ 2,211 ล้านบาท (+14% YoY) จากสมมติฐาน 1) ปริมาณขายยางพาราอยู่ที่ 460,000 ตัน และ 500,000 ตัน, 2)คงราคาขายยางเฉลี่ยอยู่ที่ 55 บาท/กก และ 3) คง gross margin 2022E/23E อยู่ที่ 12.6% ราคาหุ้น underperform SET -2%/-11% ใน 3 และ 6 เดือน จากราคายางที่ปรับตัวลงจากความกังวลอุปสงค์การใช้ยางที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม valuation ปัจจุบันน่าสนใจโดยเทรดที่ 2023E PER 4.7 เท่า และมี dividend yield ถึง 8.3% โดยเราคาดกำไรจะกลับมาโต +14%ปี 2023E จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น

บล. พาย : “3Q22 กำไรดีเกินคาด ”

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินมูลค่าพื้นฐานที่ 8.9 บาท (8XPER’23E) ด้วยปัจจัยบวกจากผลประกอบการงวด 3Q22 ออกมาดีเกินคาด หลังจากได้รับผลดีจากราคาขายและปริมาณขายที่อยู่ในระดับสูง และทำให้กำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับ 13.4% ขณะที่แนวโน้มในช่วง 4Q22 คาดปริมาณขายยังดีหนุนกำไรให้สูงกว่า 500 ลบ. ได้ ส่วนแนวโน้มในอนาคตด้วยค่ายรถจากจีนมาตั้งโรงงานในไทยเพิ่มหนุนความต้องการยางให้เพิ่มขึ้นเช่นกัน

 

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp