SMPC งวด 9 เดือน โกยกำไรกว่า 721 ลบ.พุ่ง 58% แนวโน้ม Q4/65 โตต่อเนื่อง หนุนยอดขายทั้งปีโต 10-15%

82

มิติหุ้น  –  SMPC ประกาศผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปีนี้ โกยกำไร 721.90 ลบ. เพิ่มขึ้น 58.5% กวาดรายได้ 4,308.68 ลบ. เพิ่มขึ้น 35.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ประเมินแนวโน้มไตรมาส 4/65 ออเดอร์ยังไหลเข้าต่อเนื่อง สอดรับดีมานด์ในตลาดที่ยังอยู่ในระดับสูงจากภูมิภาคหลัก โดยเฉพาะยอดขายในทวีปอเมริกา แอฟริกา และตะวันออกกลาง หนุนทั้งปี 2565 ยอดขายทำได้ตามแผน โต 10-15%

นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC ประกอบธุรกิจผลิตถังทนความดันแบบต่างๆ โดยผลิตภัณฑ์หลักเป็นถังสำหรับบรรจุแก๊สปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงต้ม และสำหรับใช้เป็นแหล่งพลังงานรถยนต์ โดยจำหน่ายภายในและต่างประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “SMPC” รวมทั้งรับจ้างผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าต่างๆ เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ งวดไตรมาส 3 ปี 2565 บริษัทฯ มียอดขายรวมอยู่ที่ 1,378.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 249.14 ล้านบาท หรือคิดเป็น 22.1% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 1,129.47 ล้านบาท เนื่องจากความต้องการของลูกค้ายังคงมีต่อเนื่อง จากลูกค้าในทวีปแอฟริกา ตะวันออกกลางและลูกค้าในประเทศ

นอกจากนี้ ต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มมากเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ทำให้มีการปรับราคาขายเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับราคาวัตถุดิบ ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าส่งผลให้บริษัทซึ่งมียอดขายต่างประเทศกว่า 90% ได้ประโยชน์ในฐานะผู้ส่งออก ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น
ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 190.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.81 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 166.90 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายและกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น สุทธิกับรายได้จากการขายเศษเหล็กลดลงและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น
“ผลประกอบการที่ออกมาในไตรมาส 3/2565 เป็นที่น่าพอใจทั้งรายได้และกำไร โดยกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 343.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.6% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 280.41 ล้านบาท สอดคล้องกับยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นใกล้เคียงกัน อัตรากำไรขั้นต้น Q3/65 อยู่ที่ 24.9% และ Q3/64 อยู่ที่ 24.8%” นายสุรศักดิ์ กล่าว

สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทฯ มียอดขายรวมอยู่ที่ 4,308.68 ล้านบาท โดยยอดขายเพิ่มขึ้น 1,138.68 ล้านบาท หรือคิดเป็น 35.9% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 3,170 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 721.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 266.36 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 58.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 455.54 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4 นี้ คาดว่ายังมีการเติบโตต่อเนื่องจากยอดขายที่เติบโตได้ดี ในด้านต้นทุนคาดว่าจะลดลงจากแนวโน้มราคาตลาดเหล็กโลกที่เริ่มลดลง ทั้งนี้บริษัทยังคงเดินหน้ากระจายความเสี่ยงทาง

ธุรกิจโดยขายสินค้าที่หลากหลาย รุกตลาดผู้ผลิตน้อยราย เพื่อสามารถเป็นผู้นำในตลาด รวมถึงบุกตลาดใหม่ๆ เพื่อขยายส่วนแบ่งการตลาด โดยบริษัทเชื่อว่าการเติบโตยังมีต่อเนื่อง เพราะดีมานด์ถังแก๊สยังมีความต้องการอยู่มากในหลายภูมิภาค
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าปีนี้บริษัทคาดยอดขายจะเติบโต 10-15% จากปีก่อน โดยการเติบโตจะมาจากทั้งถังขนาดใหญ่และถังขนาดเล็ก รวมไปถึงการขยายการผลิตไปรับงานที่เป็นส่วนของถังขนาดใหญ่และถังประเภทอื่น เช่น ถัง Refrigerant เป็นต้น ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่จะกระจายความเสี่ยง รวมถึงการรักษาระดับมาร์จิ้นของบริษัทให้ดีขึ้นได้

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp