TOP วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

112

ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง ท่ามกลางวิกฤตการเงินในภาคธนาคารสหรัฐฯ

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

– ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐฯ หลังรัฐบาลสหรัฐฯ สั่งปิดกิจการของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ (Silicon Valley Bank) หรือ SVB และธนาคารซิกเนเจอร์ (Signature Bank) หรือ SB โดยนักลงทุนกังวลว่าการล้มลงของธนาคาร SVB และ SB อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบธนาคารและอาจลุกลามไปยังธนาคารอื่นๆ ของสหรัฐฯ ทั้งนี้ การล้มลงของธนาคาร SVB ถือเป็นวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ที่สุดของภาคธนาคารสหรัฐฯ นับตั้งแต่เลห์แมน บราเธอร์ส ล้มละลายในปี 2551

– ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลในเรื่องของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐฯ (FED) หลังเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มอีก 0.25% เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับเป้าหมายที่ 2%

+ ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของประเทศจีน รวมทั้งการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯประมาณ 1% เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาถูกลง

ราคาน้ำมันเบนซิน – ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณอุปสงค์น้ำมันเบนซิน(รายวัน) ในเดือน ก.พ. 66 ของอินเดีย ปรับตัวสูงขึ้น 8.8% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว จากปริมาณการขับขี่รถยนต์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามปัจจัยด้านอุณหภูมิที่สูงขึ้นจากคลื่นความร้อน อาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันในเดือน มี.ค.

ราคาน้ำมันดีเซล – ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันดีเซลในเอเชียมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น 50,000 บาร์เรลต่อวันในไตรมาสที่ 1 ปี 66 อย่างไรก็ตามตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลการนำเข้าน้ำมันดีเซลของเวียดนามที่ลดลง 19.5% ในเดือน ก.พ. 66

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon