หุ้นปันผล ภูมิต้านทานชั้นเยี่ยมยามดัชนีดิ่งเหว  

1238

หลังเลือกตั้ง SET Index สุดจะผันผวน เผชิญปัจจัยภายนอกและภายในรุมเร้า ท่ามกลางFund Flow ไหลออก นับตั้งแต่ต้นปีต่างชาติเทกระจาดหุ้นไทยอย่างหนัก จนมียอดขายสุทธิ  9.2  หมื่นลบ. กดดัชนีหุ้นไทยโงหัวไม่ขึ้น ย่ำบริเวณ 1500 -1550 จุด   และในวันที่ 31 พ.ค. นี้ จะมีประชุมกนง. โบรกหลายสำนักฟันธงว่ามีโอกาสปรับขึ้นอีก 0.25% จะเป็นประเด็นซ้ำเติมตลาดหุ้นไทยอีกระลอก

ด้านบล.เอเชีย พลัส ระบุว่า ธปท.มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งจะกดดันให้SET ซื้อขายบนP/Eที่ต่ำลง  นอกจากนี้ หลังการเลือกตั้งในครั้งนี้หุ้นปรับตัวลงแรงกว่าในอดีตที่ผ่านมา โดยในช่วงก่อนการเลือกตั้ง 1 สัปดาห์ หุ้นยังขยับได้ดี 1.83% ใกล้เคียงกับสถิติในอดีตที่ บวก 1.87%

หลังเลือกตั้งในปี 66 นี้ กลับพบว่าตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรงกว่าปีอื่น ๆ มาก โดยหลังเลือกตั้งในปีนี้สัปดาห์แรกลดลง 3% จากอดีตเฉลี่ยบวก 3.8%

ปัจจุบันผ่านมาเกือบ 2 สัปดาห์ หรือระหว่าง 15-25 พ.. 66 แม้จะฟื้นตัวบ้างแต่ยังปรับตัวลดลงอยู่ราว 1.7% และFund Flow ไหลออกจากตลาดหุ้นไทยทุกวันสะสมถึง 1.9 หมื่นลบ.

ดังนั้น ฝ่ายวิจัยได้ได้ทำการคัดกรองหุ้นพื้นฐานที่ย่อตัวลงมา และจ่ายปันผลเด่น เพื่อรับมือกับปัจจัยภายนอก-ภายในกระอักกระอ่วน โดยผ่านเงื่อนไขดังนี้

1.เป็นหุ้นที่คาดหวังปันผลได้สูงกว่า 5% ต่อปี สูงกว่า SETHD
2.ราคาย่อตัวลงในปีนี้ โดย Return ytd ติดลบ
3. เป็นหุ้นพื้นฐานที่ Upside เปิดกว้างมากกว่า 10%ได้ผลลัพธ์ดังตารางด้านล่าง นี้

กำไรบจ.SET-mai กอดคอกันร่วงหนัก

ด้าน “แมนพงศ์ เสนาณรงค์” รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บจ.SET และ mai รวม จำนวน 786 บริษัท คิดเป็น 99.5% จากทั้งหมด 790 บริษัท  ในส่วนของบจ. SET แจ้งงบQ1/66 พบว่ามีกำไรสุทธิ 2.6 แสนลบ. ลดลง 6.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน มียอดขาย 4.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% มีต้นทุนการผลิต 3.32 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.3%  และกำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core profit)  4.10 แสนลบ. ลดลง 17.3%

สำหรับฐานะการเงินของกิจการ ณ 31 มีนาคม 2566 บจ. ไทยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน หรือ D/E ratio (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ระดับ 1.52 เท่า ลดลงจาก 1.58 เท่า เมื่อเทียบกับ สิ้นปีก่อน

“การเปิดประเทศทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่องส่งผลดีต่อธุรกิจอาหาร การบริการ การขนส่ง การท่องเที่ยว และการโทรคมนาคม ทั้งนี้ กลุ่มธนาคารและธุรกิจการเงินยังได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม การเร่งปรับตัวให้ทันต่อการกลับมาของธุรกิจทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งกว่ายอดขาย ส่วนหนึ่งจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบและสินค้าโภคภัณฑ์ ส่งผลให้ บจ. มีอัตรากำไรลดลง” นายแมนพงศ์กล่าว

ด้านผลการดำเนินงานของ บจ. mai งวด Q1/66 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มียอดขายรวม 52,334 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% ต้นทุนการผลิต 40,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% มีกำไรจากการดำเนินงาน 3,293 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.3% และมีกำไรสุทธิ 2,153 ล้านบาท ลดลง 32.4%

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/

Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon

Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770

Tiktok : www.tiktok.com/