หุ้นไทยเอาไงต่อ? หลังดอกเบี้ยใกล้ถึงจุดพีค!!!

732

จากผลการประชุม FED ในวันที่ 13-14 มิ.ย. 66 มีมติเป็นเอกฉันท์ คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.00-5.25% หลังขึ้นดอกเบี้ย 10 ครั้ง ติดต่อกันนับจากเดือนมี.ค. 65 แต่ทั้งนี้ Dot Plot กลับมีการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ในปีนี้และจะเริ่มลดดอกเบี้ยในปีหน้า

ในขณะที่ นายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED ได้แถลงรายงานนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ว่า การคงดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นเพียงการพักไม่ใช่การหยุด เพื่อให้เงินเฟ้อลงมาอยู่ในกรอบที่ 2% โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนเม.ย. 66 ลดลงมาเล็กน้อยมาอยู่ที่ 4.9% YoY จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ 5.0% YoY ซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายของ FED ค่อนข้างมาก

 

มองเชิงบวก ขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้ง
หนุนกลุ่ม Community สินค้าโภคภัณฑ์ กลุ่มขนส่งเดินเรือ

ทางด้าน “วิจิตร อารยะพิศิษฐ” นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ มีมุมมองว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง จากทิศทางเงินเฟ้อที่เริ่มปรับตัวลง การที่ FED ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง นั้นมีข้อดีคือการเปิดประเด็นเผื่อไว้ก่อน เพื่อสร้างเซอร์ไพรส์ให้ตลาดในกรณีที่ไม่ได้ขึ้นถึง 2 ครั้ง หรือถ้าขึ้น 2 ครั้ง ก็จะไม่ได้ส่งต่อตลาดมากเพราะรับรู้ไปแล้ว แต่ข้อเสียคือการสร้างความกังวลให้กับตลาดหุ้น

ทั้งนี้ยังมองมาทิศทางดอกเบี้ยที่ใกล้จุดสิ้นสุดและเริ่มเป็นขาลงประกอบกับดอกเบี้ยของ ECB ยังเป็นขาขึ้นส่งผลให้ค่าเงินยูโรแข็งค่ากดให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัว เป็นผลดีต่อกลุ่ม Community สินค้าโภคภัณฑ์ กลุ่มขนส่งเดินเรือ

 

หั่นเป้า SET Index ปีนี้
มาอยู่ที่บริเวณ 1,496 จุด

ในส่วนของ บล.ทิสโก้ ได้ปรับลดประมาณการเป้าหมาย SET Index ปีนี้มาอยู่ที่บริเวณ 1,496 จุด จากเดิมมองไว้ที่ 1,542 จุด มาจากการลดตัวเลขคาดการณ์ของ EPS โดยมาจากกลุ่มพลังงานเป็นหลัก และการลดตัวเลข PE จากความไม่แน่นอนทางการเมือง เศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอย และการขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง

มองว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไทยจะไม่หยุดอยู่ที่ 2% ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้ส่งสัญญาณในการปรับขึ้นต่อของดอกเบี้ย ซึ่งให้เหตุผลว่ามาจากแรงกดดันของเงินเฟ้อในอนาคต โดยแนะนำสะสม 5 หุ้นพื้นฐานดี

 

SCB ราคาเป้าหมาย 130 บาท
-ธุรกิจใหม่เริ่มขาดทุนลดลง ในขณะที่การประมูลค่าหุ้นถูกและปันผลสูง

AWC ราคาเป้าหมาย 5.5 บาท
-มีโครงการขนาดใหญ่เข้ามาต่อเนื่อง รองรับการเติบโตในอนาคตค

BDMS ราคาเป้าหมาย 35 บาท
-จำนวนผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มมากขึ้น แนวโน้มกำไรเติบโตอย่างมั่นคงจากการขยายโคงการใหม่

SISB ราคาเป้าหมาย 46.25 บาท
-นักเรียนเพิ่มขึ้นทั้งสาขาเดิมและการขยาย 2 สาขาใหม่ หนุนกำไร 2 ปี ข้างหน้าทำสถิติใหม่ทุกปี

MENA ราคาเป้าหมาย 2.76 บาท
-เพิ่มรถให้บริการขึ้นกว่า 27% และจะเริ่มรับรู้รายได้ JV เพื่อรองรับการขยายสาขา “CJ” และ “ถูกดีมีมาตรฐาน” ตั้งแต่ Q2/66 เป็นต้นไป

 

แนะหุ้น SET100
ที่แข็งแกร่งกว่าตลาดในเชิงเทคนิค

ด้าน บล.เอเซีย พลัส แนะนำหุ้นใน SET100 ที่น่าจับตาในเชิงเทคนิค หลังดัชนีลงมาปิดที่ระดับ 1,505.52 จุด ในวันที่ 23 มิ.ย.66 ต่ำสุดในรอบ 2 ปีกว่า  แนะเลือกหุ้นที่แข็งแกร่งกว่าตลาดในเชิงเทคนิค (RSI >50, MACD >0) โดยส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่อยู่ในเทรนด์ขาขึ้น และ Outperform กว่าตลาดในช่วงที่ผ่านมา ชื่นชอบ IVL, MINT, AOT, SCB

รวมถึงหุ้นที่ลงมาเร็วในช่วงที่ผ่านมาจนเข้าเขต Oversold (RSI < 30) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่มีความผันผวนสูง และลงมาลึกมาก ซึ่งในระยะถัดไปน่าจะมีจังหวะรีบาวด์ได้บ้าง หากมีประเด็นบวกหนุนเข้ามา และต้องย้ำว่าหุ้นชุดนี้เหมาะกับนักลงทุนที่รับความผันผวนได้สูง แนะนำ Trading หุ้น EA, CENTEL, GULF, TRUE ในช่วงที่ราคาเริ่มกลับมาฟื้นอีกครั้ง

 

 

 

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon