บ้านปู แง้มทริค “ปั้นโปรไฟล์ธุรกิจ SE” อย่างไรให้โดนใจนักลงทุน พร้อมชวนติดตามพัฒนาการธุรกิจ SE ใน BC4C ปีที่ 12

392

มิติหุ้น – กิจการเพื่อสังคมหรือ Social Enterprise (SE) อาจเกิดจากการมี “ไอเดียเพื่อสังคมที่ดี” แต่การจะทำธุรกิจ SE ให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนนั้นต้องมีแนวทางการดำเนินธุรกิจแบบหวังผลที่ชัดเจนและพร้อมที่จะนำเสนอให้กับนักลงทุนที่สนใจ ดังนั้นนอกเหนือจากการสร้างความเชื่อมั่นว่าธุรกิจจะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว การมี “โปรไฟล์ธุรกิจที่น่าเชื่อถือ” จึงเป็นสิ่งที่ SE ควรให้ความสำคัญ เพราะมีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุน

 

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชนร่วมกับ สถาบัน ChangeFusion ในฐานะผู้สนับสนุนกิจการเพื่อสังคมมาอย่างยาวนาน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการกิจการ SE ให้สามารถสร้างโปรไฟล์ธุรกิจให้แข็งแกร่ง ผ่านการดำเนินโครงการ Banpu Champions for Change (BC4C) โดยโครงการฯ ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนธุรกิจและปั้นโปรไฟล์แบบมืออาชีพ มาช่วยเพิ่มทักษะในการทำโปรไฟล์ธุรกิจและพัฒนาศักยภาพให้กับผู้ประกอบการกิจการเพื่อสังคม เพื่อทำให้ SE สามารถระดมทุนและสร้างการเติบโตได้ต่อเนื่อง  

 

ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่ BC4C ได้คัดเลือก SE ที่มีประสบการณ์และผ่านการดำเนินธุรกิจมาระยะหนึ่ง ที่ต้องการโตขึ้นไปอีกขั้นจำนวน โครงการมาเข้าร่วมกระบวนการพัฒนาศักยภาพกิจการระยะขยายผล (Acceleration Program) ซึ่งหนึ่งในกระบวนการหลักที่ผู้เข้าร่วมจะได้รับการพัฒนาคือการสร้างโปรไฟล์ธุรกิจ ที่ตอบโจทย์สิ่งที่นักลงทุนต้องการเห็น 

  • กุญแจสำคัญ ช่วยปั้นโปรไฟล์ธุรกิจ SE ให้ดึงดูดนักลงทุน 

 

นางสาวไฮดี้ เหลิ่ง ผู้จัดการฝ่ายบริหารธุรกิจแห่ง ChangeFusion ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนธุรกิจในกิจการเพื่อสังคม เผยว่า หลักสำคัญในการพัฒนาโปรไฟล์ธุรกิจ (Business Profile) เพื่อเพิ่มโอกาสในการร่วมลงทุนของนักธุรกิจได้นั้น ผู้ประกอบการควรยึด 5 ข้อสำคัญดังนี้   

 

  • ต้องชัดเจนว่าธุรกิจของตนอยู่ในอุตสาหกรรมใด 

การกำหนดแนวทางและวางตำแหน่ง (Position) ของธุรกิจตัวเองในอุตสาหกรรมที่แน่ชัด จะส่งผลต่อทิศทางการดำเนินธุรกิจและมีแหล่งอ้างอิงในการวางแผนพัฒนากลยุทธ์ในอนาคต ซึ่งจะทำให้นักลงทุนเห็นภาพและสามารถประเมินการเติบโตได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

 

  • การแสดงข้อมูลสถิติที่ดึงดูดนักลงทุน (Traction) เพื่อประกอบการตัดสินใจ ไม่ว่าจะด้วยการแสดงสถิติจำนวนผู้ใช้งานในปัจจุบัน รายรับ รายได้ กำไร สถิติการกลับมาซื้อซ้ำ เป็นต้น รวมถึงความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ เพื่อแสดงให้เห็นความถนัดของผู้ประกอบการ สร้างความเชื่อมั่นว่าธุรกิจนี้มีโอกาสที่จะขยายฐานลูกค้ารวมถึงการสร้างรายได้ได้จริง 
  • มีแผนและแนวทางขยายกิจการในอนาคต ผู้ประกอบการต้องสามารถแสดงถึงวิสัยทัศน์และแผนงานระยะยาว โดยมีการวางแผนกิจกรรม วางแผนการเงิน (Financial Planning) การคาดการณ์ทางการเงิน (Financial Forecasts) ให้นักลงทุนรับทราบแผนอย่างชัดเจน
  • เข้าใจบริบทในการสร้างอิมแพคกับสังคม (Social Impact)กล่าวคือ Business Model จะต้องสามารถสร้างผลลัพธ์ทางสังคมได้ ทั้งสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม สังคมหรือชุมชนนั้นๆ ได้จริงและวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสามารถทำได้โดยการชักชวนกลุ่มเป้าหมายหรือผู้ที่มีส่วนได้เสีย (Stakeholder) เข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจ  
  • มีแผนบริหารและจัดการความเสี่ยง หลายๆ ครั้งผู้ประกอบการมักไม่ได้ให้ความสนใจหรือมองข้ามส่วนนี้ไป ซึ่งจริงๆ การมีแผนวิเคราะห์ความเสี่ยงและแผนรับมือ จะทำให้ผู้ประกอบการมีความเป็นมืออาชีพ พร้อมรับกับความเปลี่ยนแปลง และเพิ่มความน่าเชือถือให้กับพอร์ตธุรกิจได้อย่างมาก ถือเป็นส่วนสำคัญที่สามารถดึงดูดนักลงทุนได้

 

“สำหรับกิจการที่มาเข้าร่วม Acceleration Program โดยส่วนใหญ่ ที่แม้จะมีรากฐานที่เห็นเป็นรูปเป็นร่าง แต่ยังขาดเรื่องราวความน่าสนใจและแผนธุรกิจระยะยาวที่จะดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาสนับสนุน ตลอดจนสร้างความมั่นคงให้ตนเองจนสามารถดำเนินกิจการได้อย่างยั่งยืน ดังนั้น การสร้างโปรไฟล์ธุรกิจที่ดี นอกจากช่วยสนับสนุนการเจรจากับนักลงทุนได้อย่างครบถ้วนและตรงประเด็นแล้ว ยังช่วยตีกรอบให้ธุรกิจสามารถเดินไปข้างหน้าได้โดยไม่หลงทาง” นางสาวไฮดี้ กล่าว

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon