TOP วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

121

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังตลาดจับตาท่าทีของสหรัฐฯ
ที่มีต่อความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังตลาดจับตาท่าทีของสหรัฐฯ ที่จะมีต่อความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส โดยประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนอิสราเอลในวันนี้ (18 ต.ค. 66) เพื่อแสดงการสนับสนุนต่ออิสราเอลและพยายามป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งขยายวงกว้างไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบของโลก

–  อย่างไรก็ดี อุปทานน้ำมันดิบอาจคลายความตึงตัวได้บ้าง หลังสหรัฐฯ และเวเนซุเอลาอาจบรรลุข้อตกลง นำมาสู่การผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตร ส่งผลให้เวเนซุเอลาอาจสามารถกลับมาส่งออกน้ำมันดิบได้อีกครั้งหลังจากการคว่ำบาตรตั้งแต่ปี 2562

+ หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เผย ตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 13 ต.ค. 66 ปรับตัวลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลงเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน : ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตัวเลขการนำเข้าน้ำมันเบนซินของออสเตรเลียในเดือน ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 8.21% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ขณะที่ตลาดคาดว่าจีนจะส่งออกน้ำมันเบนซินในระดับต่ำในช่วงปลายปี

ราคาน้ำมันดีเซล : ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานฝั่งตะวันตกที่ยังทรงตัวแม้ว่าจะเข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงที่ความต้องการเชื้อเพลิงน่าจะสูงจากการใช้เครื่องทำความร้อน ขณะที่ตัวเลขการส่งออกน้ำมันดีเซลจากภูมิภาคมีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงปลายปี

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon