“PRI” เปิดวิสัยทัศน์ 2567 “Elevate Your Living Experience” เดินหน้า 4 กลยุทธ์

41

มิติหุ้น – ยกระดับประสบการณ์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคอย่างครบวงจร พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น หรือ PRI เปิดแผนธุรกิจปี 2567 “Elevate Your Living Experience” สู่ผู้นำธุรกิจการให้บริการเกี่ยวเนื่องกับอสังหาฯสมัยใหม่แบบครบวงจร ชู 4 กลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กร ขยายบริการใหม่ไร้รอยต่อติดปีกทักษะบุคลากรร่วมกับสถาบันการศึกษาต่อยอดนวัตกรรมใหม่ๆใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมหวังยกระดับบริการอสังหาฯและประสบการณ์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคอย่างครบวงจร สร้างคุณค่าระดับ Lifetime Value ดูแลคนทุกเจเนอเรชั่นตั้งเป้ารายได้ปี 2567 ที่ 2,250 ล้านบาท
ปูทางสร้างรายได้ประจำอย่างมั่นคง

นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรี​โม เซอร์วิสโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือPRI
ผู้นำธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจร เปิดเผยว่า แนวโน้มการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ให้ความสำคัญกับ 4 เรื่องหลัก ได้แก่

1.Smart Living Solutions ใส่ใจเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น ครบวงจรมากขึ้นในพื้นที่เดียว โดยไม่ต้องออกนอกที่พัก

2.Sustainable Living Practices ใส่ใจการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนตั้งแต่การเลือกใช้ชีวิตในสถานที่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานทดแทนมีมาตรการจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ

3.Wellness & Well-being มองหาพื้นที่ใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์การมีสุขภาพกาย สุขภาพจิต
สแกนเพื่อดาวน์โหลดและสุขภาวะที่ดี และ

4.Flexible Living Arrangement ต้องการรูปแบบการใช้ชีวิตที่ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ในฐานะผู้นำธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจรบริษัทจึงจะเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2567 นี้ภายใต้แนวคิด

“Elevate Your Living Experience” ยกระดับงานบริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์
พร้อมทั้งยกระดับประสบการณ์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคอย่างครบวงจร ให้สอดคล้องกับแนวโน้มพฤติกรรมความต้องการ ภายใต้ 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

1.ขยายบริการใหม่ไร้รอยต่อ (Expanding Our Business Horizon)เพิ่มบริการและธุรกิจใหม่ทั้งกลุ่มบริการต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำตอบโจทย์ความต้องการของระบบนิเวศอสังหาริมทรัพย์และระบบนิเวศบริการในที่อยู่อาศัย โดยพัฒนามาตรฐานงานบริการเพื่อให้มีอัตราการต่อสัญญาที่สูงมากขึ้นเพื่อนำไปสู่การเป็นผู้เล่นในตลาดใหม่ๆ และทำการเจาะลูกค้ากลุ่ม B2C มากขึ้น อาทิ ธุรกิจตกแต่งภายใน ธุรกิจปรับปรุงภูมิทัศน์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ธุรกิจการจัดการพื้นที่ส่วนกลางอาคารขนาดใหญ่ ขยายการเข้ารับงานจากภาครัฐ และภาครัฐวิสาหกิจ รวมถึงธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติ

2.ติดปีกทักษะบุคลากร (People Development)จับมือสถาบันการศึกษาที่มีหลักสูตรด้านอสังหาริมทรัพย์ 10 แห่ง อาทิ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ร่วมพัฒนาหลักสูตรยกระดับทักษะและองค์ความรู้ให้แก่พนักงานในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ อาทิ กลุ่มงานที่ปรึกษา กลุ่มงานจัดการอาคารรวมจำนวน 30 หลักสูตรภายในปีนี้ เพื่ออัปสกิลและรีสกิล (Upskill & Reskil)ให้แก่ทั้งพนักงานปัจจุบัน และพนักงานใหม่ที่จะเข้าทำงานให้เข้าใจความต้องการและพฤติกรรมการอยู่อาศัยยุคใหม่โดยพนักงานใหม่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งงานต่างๆได้จำเป็นต้องผ่านการอบรมหลักสูตรที่เกี่ยวข้องไม่น้อยกว่า 3 หลักสูตรขณะเดียวกัน ยังได้สร้างความร่วมมือกับกลุ่มสถาบันการศึกษาดังกล่าวนำนักศึกษาชั้นปีที่ 3-4 เข้าร่วมโครงการ Management Trainee กับ PRI เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่มีทักษะความสามารถตรงสายสามารถเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ PRI ได้และสร้างโอกาสในสายงาน (Career Path)ให้แก่นักศึกษา เพื่อพัฒนาตัวตนนำไปสู่พนักงานผู้ให้บริการมืออาชีพในอนาคต

3.ต่อยอดนวัตกรรมใหม่ (Enhance Innovation + Technology) กับบริษัทลิฟเทค แล็บ จำกัด PRI ร่วมทุนด้านเทคโนโลยียกระดับการให้บริการผ่านการพัฒนานวัตกรรมและและการเข้าถึงของข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน Primo Plus โฉมใหม่ให้มีฟังก์ชันและประสิทธิภาพที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ๆ อำนวยความสะดวกงานบริการ อาทิ แพลตฟอร์มจองแม่บ้านทำความสะอาดแพลตฟอร์มติดตามงานซ่อมบำรุงอัตโนมัติ ตลอดจนแพลตฟอร์มการจัดการผู้มาติดต่อภายในโครงการ (Visitor Management)
โดยมีแนวคิดจะทำบางแพลตฟอร์มวางจำหน่ายแบบ White Label ด้วย

4.ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม (ESG & Sustainability for Future Living)ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เกิดการจัดการของเสีย (Waste Management) การประหยัดพลังงาน (Energy Saving)
ความใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม ในโครงการที่อยู่อาศัยที่ PRI เข้าไปบริหารจัดการอาคาร นายสุรินทร์ กล่าวอีกว่า กลยุทธ์ดังกล่าว จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของบริษัทยกระดับงานบริการของบริษัทให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่มากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มอัตราการรักษาลูกค้าระยะยาว (Retention Rate)เพิ่มโอกาสเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ๆ ทั้งกลุ่มต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ช่วยให้ดูแลผู้บริโภคได้อย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น และเป็นรากฐานการสร้าง
PRI ให้เติบโตอย่างยั่งยืน สำหรับปี 2567 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 2,250 ล้านบาท โดยมองโอกาสขยายตัวจากกลุ่มธุรกิจใหม่

ตลอดจนการขยายฐานจำนวนลูกค้าโครงการทั้งในกลุ่มต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำ สำหรับ บริษัท พรีโม​ เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI เป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรชั้นนำ
ของประเทศ มีประสบการณ์กว่า 11 ปี ปัจจุบัน ดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจต้นน้ำ – บริการก่อนเข้าอยู่อาศัย (Pre-Living Services) อาทิ บริการที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างบริการออกแบบด้านสถาปัตยกรรม งานโครงสร้าง งานโยธา และงานระบบบริการจัดฝึกอบรมและพัฒนาทักษะบุคลากร 2.กลุ่มกลางน้ำ –
บริการการจัดการเพื่อการอยู่อาศัย (Living Services) อาทิ บริการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด บ้านจัดสรร ห้างสรรพสินค้า อาคารและสำนักงาน บริการอพาร์ตเมนท์แบบพรีเมียม บริการซื้อ-ขาย-ปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร และ 3.กลุ่มปลายน้ำ -บริการหลังการขายที่อยู่อาศัย (Living & Earning Services) อาทิ บริการแม่บ้านและช่าง บริการออกแบบและตกแต่งภายใน

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon