ตะวันออกกลางเดือด ทอง น้ำมัน หุ้น ปั่นป่วน

583

มิติหุ้น – สงครามในตะวันออกกลาง ยังไม่มีท่าทีจะสงบลง หลังอิหร่าน เปิดฉากตอบโต้ยิงขีปนาวุธ 200 ลูกเข้าโจมตีอิสราเอลในคืนวันที่ 2 ต.ค. 2567 จากก่อนหน้าที่อิสราเอล ได้สังหารฮัสซัน นัสรุลลอห์ ผู้นำของกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ เรื่องราวครั้งนี้คงไม่จบลงง่ายๆอย่างแน่นอน ปมระอุยังมีผลกระทบไปถึง ราคาน้ำมัน ราคาทอง และตลาดหุ้น ปั่นป่วนไปตามๆกัน

น้ำมันอาจแตะ 200 เหรียญ

สำหรับมุมมองนักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันอาจพุ่งแตะระดับ 200 เหรียญต่อบาร์เรล หากอิสราเอลตอบโต้อิหร่านด้วยการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของน้ำมันในประเทศ รวมทั้งการปิดช่องแคบฮอร์มุซ อาจทำให้มีการเพิ่มค่าพรีเมียมความเสี่ยงเข้าไปในราคาน้ำมัน ก็จะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น

ขณะที่ผู้ประกอบการไทยอย่าง SPRC โดยนางสาวเชาวศรี เหลืองรัตนากร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายกลยุทธ์ นโยบาย และพัฒนาธุรกิจ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) ระบุว่า สงครามที่เกิดอาจกระทบเรื่องราคาน้ำมันดีดตัวสูงขึ้นซึ่งเรื่องที่ต้องติดตามใกล้ชิดคือต้องจับตาว่าจะมีการปิดช่องแคบฮอร์มุซ หรือไม่ แต่เบื้องต้นมีแผนรองรับว่าจะนำช่องทางไหนเข้ามาทดแทนน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง โดยในทุกวันนี้ SPRC ได้เก็บน้ำมันสำรองที่ 6% หรือประมาณ 21 วัน รองรับหากเกิดสถานการณ์ที่ไม่ปกติ

หุ้นปั่นป่วนทุนเคลื่อนย้าย

เมื่อประเด็นสงครามเกิดขึ้นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เงินทุนเคลื่อนย้ายจะขยับตัวไปสู่สินทรัพย์ปลอดภัย ด้าน บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ปัจจัยความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ บวกกับ FED อาจไม่รีบปรับลดดอกเบี้ยลงเร็ว จากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ล้วนหนุนให้ ดอลลาร์ พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น รวมทั้งความไม่สงบในตะวันออกกลาง ยังกดดันเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มเติม โดยความผันผวนจากปัจจัยภายนอกยังมีอยู่กดดัน SET INDEX ขยับขึ้นยากในช่วงนี้ แม้จะดูผันผวนแต่ยังพอมีหุ้นเป็นรายหุ้นที่ได้รับเซนติเมนต์เชิงบวกจากสถานการณ์นี้ อย่างหุ้นน้ำมัน มี ESG RATING ดี PTTEP, PTT, TOP และหุ้นมี ESG RATING ดี กำไรช่วงครึ่งปีหลังเด่น SCC, SCGP, CPAXT, AMATA, MTC, PLANB, CBG

ราคาทองดีดตัวยาว

สงครามกับราคาทองในประเด็นนี้ บล. ยูโอบี เคย์เฮียน ระบุว่า สถานการณ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นของทางฝั่งตะวันออกกลาง อาจเป็นแรงหนุนการเก็งในสินทรัพย์ปลอดภัย และโดยปกติเมื่อมีความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะไปดันให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูง แต่ถามว่าแล้วราคาทองคำจะสูงขึ้นได้ต่อหรือไม่ และจะไปได้ไกลมากน้อยแค่ไหนนั้น เรื่องนี้ก็อาจต้องขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสงคราม

ส่วนมุมมองของกูรูทองอย่าง นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการฝ่ายบริหารกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก ได้บอกกับ “มิติหุ้น” ว่า ราคาทองคำในตลาดโลกคาดว่าจะอยู่ในกรอบ  2,750 – 2,800 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ โดยในภาพรวมยังเป็นขาขึ้นและอาจขยับขึ้นต่อได้ 45 – 100 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ จากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องในการประชุม 2 ครั้งที่เหลือของปีนี้ และประเด็นสงครามที่ยังมีต่อเนื่อง

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon