มิติหุ้น – บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) ประกาศงบ Q2/68 โชว์รายได้ 659 ล้านบาท กำไรสุทธิ 64 ล้านบาท ฟากบิ๊กบอส “สมพล ธนาดำรงศักดิ์”ประเมินกลุ่มลูกค้าหลักตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลาง ยังมีความต้องการชิ้นส่วนยานยนต์อย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพสูง พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์ทั้งจากธุรกิจหลักและการเติบโตของบริษัทย่อย รองรับดีมานด์ตลาดยานยนต์โลก โชว์ Backlog แน่น 1,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ยาว 2 ปี หนุนผลงานโต Double Digit ทำสถิติสูงสุดใหม่ ขณะที่บอร์ดเคาะจ่ายเงินปันผล 0.04 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 ส.ค.นี้
นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 2/2568 มีรายได้รวม 659 ล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit) จำนวน 87 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 64 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทย่อยในประเทศได้กลับมามีกำไรและการขาดทุนของบริษัทย่อยในต่างประเทศมีแนวโน้มลดลง และคาดว่าจะกลับมีกำไรครึ่งปีหลัง
โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริํษัทฯในวันที่ 14 สิงหาคม 2568 มีมติจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.04 บาท/หุ้น จากงวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม-30 มิถุนายน 2568 ขึ้นเครื่องหมาย XD ว้นที่ 27 สิงหาคมนี้ และกำหนดจ่ายวันที่ 9 กันยายน 2568
นอกจากธุรกิจหลักแล้ว บริษัทย่อยในต่างประเทศยังมีพัฒนาการที่โดดเด่น โดย FPI AUTO PARTS INDIA PRIVATE LIMITED มีรายได้รวม 48.3 ล้านบาท ในไตรมาสนี้ สอดคล้องกับเป้าหมายแม้อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของผลิตภัณฑ์ และมีโครงการในมือมูลค่าประมาณ 443 ล้านบาท โดยจะเริ่มรับรู้รายได้จากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่หลายโครงการตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2568 นี้เป็นต้นไป และในช่วง 2568 – 2570 คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 2,000 ล้านรูปี หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 740 ล้านบาท
ขณะที่ RBS PLASTIC INNOVATION COMPANY ซึ่งเริ่มดำเนินธุรกิจเมื่อกลางปี 2567 สร้างรายได้ 24.6 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 0.3 ล้านบาทในไตรมาสนี้ ภายใต้กลยุทธ์การควบคุมต้นทุนและการวางรากฐานเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต ส่วน THARWAT ALQATA INDUSTRIES COMPANY LIMITED LIABILITY ในประเทศซาอุดีอาระเบีย อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตก่อสร้างโรงงานและเตรียมเริ่มการก่อสร้างในเดือนกันยายน 2568 โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 3 ปี 2569 ซึ่งจะช่วยเสริมกำลังการผลิตและขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางอย่างมีนัยสำคัญ
“การเติบโตของบริษัทย่อยทั้งในประเทศเริ่มกลับมามีกำไร และบริษัทย่อยในต่างประเทศมีผลขาดทุนลดลง แสดงถึงความสามารถในการปรับแผนและควบคุมการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด บริษัทฯ ยังคงรักษาความมั่นคงทางการเงินด้วยสถานะสภาพคล่องที่ดีและโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่ง พร้อมติดตามสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า แนวโน้มในครึ่งหลังปี 2568 คาดว่าอัตราแลกเปลี่ยนจะอยู่ในระดับทรงตัว ซึ่งจะเอื้อต่อการฟื้นตัวของกำไร พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์ทั้งจากธุรกิจหลักและการเติบโตของบริษัทย่อย เพื่อรองรับความต้องการของตลาดยานยนต์โลก รวมถึงเตรียมความพร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์รองรับรถยนต์ไฟฟ้า สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในระยะยาว โดยปัจจุบันมีงานในมือรองรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 1,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 2 ปีข้างหน้า ทำให้มั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโต Double Digit สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ตามแผนงานที่วางไว้
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon