EA ยันผลงานไร้กังวล กำไรนิวไฮ-เป้า-62บ. (2/09/62)

711

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA โดย “นางสาวออมสิน ศิริ” ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร เผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/62 จะเติบโตโดดเด่น เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/61 ที่มีกำไรสุทธิ 1,274 ล้านบาท รายได้รวมที่ 3,117 ล้านบาท และ ไตรมาส 2/62 ที่มีกำไรสุทธิ 1,442 ล้านบาท และ รายได้รวม 3,743 ล้านบาท

ไฮซีซันหนุนงบQ3พีค

เนื่องจากช่วงไตรมาส 3/62 เป็นช่วงไฮซีซั่นของโรงไฟฟ้าพลังงานลม และยังรับรู้รายได้เต็มไตรมาสจาก “โครงการหนุมาน 10” จ.ชัยภูมิ ขนาด 80 MW ด้วย (COD วันที่ 13 เม.ย.) ดังนั้นทำให้โครงการหนุมาน COD ครบถ้วน 260 MW และผลักดันให้มีโรงไฟฟ้าที่ COD รวมทั้งสิ้น 664 MW แบ่งเป็นพลังงานลม 386 MW และ โซลาร์ 278 MW

“ แม้ช่วงไตรมาส 3/62 เป็นช่วงโลว์ซีซันของโซลาร์เพราะเป็นช่วงฤดูฝน แต่ก็เป็นช่วงไฮซีซันของพลังงานลมและการที่มีกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมที่สูงกว่า จึงทำให้ผลงานช่วงไตรมาส 3/62 เติบโตโดดเด่น” นางสาวออมสิน กล่าว

ดังนั้นทั้งปี 62 มั่นใจรายได้จะเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) แตะที่ 1.5 หมื่นล้านบาท หรือ เติบโต 18.52% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1.26 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีโรงไฟฟ้าที่ COD เพิ่มขึ้น

โชว์รายได้นิวไฮ2หมื่นล.

ส่วนในปี 63 ตั้งเป้ารายได้ทำนิวไฮต่อเนื่องที่ระดับ 2 หมื่นล้านบาท เติบโตเกิน 30% จากปีก่อน เพราะบริษัทจะรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าเข้ามาเต็มปีที่ 664 MW รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ อย่าง “ธุรกิจผลิตรถไฟฟ้า” ล่าสุดมียอดจองแล้ว 4,500 คัน ราคาประมาณ 1.2 ล้านบาท/คัน มูลค่ารวม 5.4 พันล้านบาท คาดจะเริ่มส่งมอบในช่วงไตรมาส 1/63 ล่าสุดบริษัทมีโรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าที่ จ.ฉะเชิงเทรา คาดในอนาคตจะสามารถขยายการผลิตได้ถึง10,000 คัน/ปี

“ การมีรถไฟฟ้าออกมามากขึ้นนั้น ทำให้บริษัทมีรายได้จากสถานีชาร์จไฟฟ้าด้วย เพราะที่ผ่านมาได้จับมือ 4 พันธมิตรใหญ่ เชฟรอน, บริดจสโตน, CPALL, ROBINS ติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า 1,000 แห่ง” นางสาวออมสิน กล่าว

ส่วน “ธุรกิจแบตเตอรี่” ขนาด 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปีนั้น  คาดจะสามารถขายได้ไม่เกินไตรมาส 2/63 ซึ่งจะสร้างรายได้ประมาณ 3 พันล้านบาท  ขณะที่ “ธุรกิจเรือไฟฟ้า” ในปี 63 มีแผนประกอบเรือรวม 54 ลำ ซึ่งจะเริ่มเปิดทดลองให้บริการในเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยาในปลายเดือนก.ย.62นี้ จำนวน 2 ลำ มูลค่าลงทุนรวมกว่า 1 พันล้านบาท

เด้งรับมาตราการIMO 2020  

สำหรับ “ธุรกิจไบโอดีเซล” ปัจจุบันมีแผนเดินหน้าโครงการสร้างเพิ่มมูลค่าไบโอดีเซล จากปัจจุบันมีกำลังผลิตรวม 8 แสนลิตร/วัน  ส่วน “โครงการกรีนดีเซล” ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือนน้ำมันดีเซลแต่กลั่นมาจากน้ำมันปาล์ม ซึ่งสามารถใช้แทนน้ำมันดีเซลได้นั้น ก็กำลังได้รับอานิสงส์จากมาตราการ IMO 2020 ที่จะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.63 นี้ด้วย ทำให้มียอดขายจาก“โครงการกรีนดีเซล” เพิ่มขึ้น

ด้าน “บล.ฟิลลิป” แนะนำ “ทยอยซื้อ” EA เป้าหมาย 56 บาท เนื่องจาก EA รับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทนเต็ม 664 MW ในช่วงครึ่งปีหลัง  ดังนั้นทั้งปี 62 คาดกำไรสุทธิและรายได้จะเติบโตทำนิวไฮที่ 22 % ต่อปี ส่วน “บล.ฟินันเซีย ไซรัส” แนะนำ “ซื้อ” EA ราคาเป้าหมาย 62 บาท

www.mitihoon.com