SCBAM วิเคราะห์ Thai ESGX เปิด IOP วันแรก ปฐมบทฟื้นคืนหุ้นไทย ลงทุนเน้นคุณค่าหลังเจ็บหนักจาก LTF ดึง ESG เป็นตัววัดกิจการเติบโตยั่งยืนแท้จริง คาดPE 12-14 เท่า
วโรฤทธิ์ จีระชน ผู้บริหารกลุ่มงานวิเคราะห์การลงทุน และESG บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ หรือ SCBAM วิเคราะห์ทิศทางการลงทุน กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESG Extra Fund หรือ Thai ESGX) ที่เปิดIPO วันแรก ในช่วงที่ดัชนีลงถึงจุดที่ต่ำที่สุด อยู่ที่ 1,200 จุด จากต้นปี2568 อยู่ที่ 1,380 จุดลงมา 180 จุด โดยจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,060 จุด ซึ่งที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ตลาดโกลาหล เพราะเกิดความกังวล จากนโบบายภาษีของทรัมป์ แต่หากเทียบกับตลาดต่างประเทศ ดัชนีหุ้นไทยไม่ได้ลงมากเท่ากับหุ้นต่างประเทศ เพราะหุ้นไทยเคยลงมาต่ำมากแล้ว จนสะท้อนได้ว่า การลดลงนั้นเป็นการที่ตลาดได้คาดโทษ (Punishing) มูลค่าหุ้นไทยไปแล้ว การที่ไม่่ลงเท่ากับตลาดต่างประเทศ จึงเป็นบทสะท้อนได้ว่า หุ้นไทยเริ่มมีความเป็นการลงทุนเน้นคุณค่า (Value Investment) มากขึ้น มีกลุ่มเซกเตอร์ใหญ่ อย่าง ธนาคารหรือ สถาบันการเงิน ต่างให้เงินปันผลสูง
ดังนั้น การที่มีThai ESGX จากภาครัฐ เปิดตัว โดยอนุมัติให้สามารถโอการลงทุนจาก LTF มาลงทุน Thai ESGX พร้อมกันกับได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และถือได้ยาวถึง 5 ปี จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการเริ่มลงทุน
บทใหม่ ลงทุนคุณค่า PE12-14 เท่า
ทั้งนี้ เชื่อว่าการเริ่มลงทุน Thai ESGX ในวันนี้จะเป็นปฐมบทใหม่ (New Chapter) ของการลงทุนหุ้นไทยที่เริ่มต้นจาก PE ที่ต่ำมากๆ จาก 1,200 จุด เป้าหมายอยู่ที่ 1,380 จุดในปีนี้ จะมีโอกาสที่จะเพิ่มมูลค่าPE ได้ถึง 12-14 เท่า
“เหมาะสำหรับคนที่มีเงินออมสูง หากล้าลงทุนวันนี้ แล้วนักลงทุนถือได้ในระยะยาว และถือทนต่อความผันผวนของตลาดไปอีก 5 ปี ได้ ได้พีอีสูง 12-14 เท่า การลดภาษีของแถม การได้ลดหย่อนภาษี บวกกับกำไร โดยรวมผลประโยชน์ไม่ต่ำกว่าล้านบาท”
ฟื้นลงทุนคุณค่าหุ้นไทย หลังเจ็บหนักLTF
โดยบทสรุปของการเริ่มต้นของ Thai ESGX ทำให้นักลงทุนที่ได้รู้จักการลงทุนด้านคุณค่ามากขึ้นในยุคนี้ และถือเป็นตัวรับไม้ต่อจากกองทุน LTF ( Long-Term Equity Fund) หรือ กองทุนรวมหุ้นระยะยาวที่เน้นการลงทุนในหุ้น ในยุคที่ 2-3 ปี ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างกังวล และสู้สึกตื่นตระหนกต่อบจ.บางกลุ่มที่ส่งผลกระทบจนไม่กล้าลงทุน หลังจากLTF ร่วงหนัก ถือเป็นการฟื้นฟูกอบกู้ สิ่งที่เคยขาดทุน และภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของการลงทุนในธุรกิจบางกลุ่ม โดยมีหลักเกณฑ์ESG มาช่วยประเมิน
“สองสามปีที่ผ่านมา นักลงทุนตลาดหุ้นไทย รู้สึกกังวลต่อเหตุการณ์ และตื่นตระหนัก กับ บจ.บางกลุ่มที่ทำให้ไม่กล้าลงทุน จนมองว่าตลาดหุ้นไทยมีความเสี่ยง แต่การลงทุน ที่คำนึงถึงESG จะเป็นตัวช่วยลดความเสี่ยงลง เพราะว่าบริษัท มีความเสี่ยงมาก จะก็ถูกพิจารณาให้มีลงทุนน้อยลง”
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon