เจาะลึกแนวคิดผู้บริหาร “แค๊ปสโตน แอสเสท” ดีเวลลอปเปอร์อสังหาฯ ลักชัวรี กับความสำเร็จและประสบการณ์ปั้นโปรเจ็กต์โรงแรม 5 ดาวและแบรนด์เด็ดเรสซิเดนซ์ระดับโลกยาวนานกว่า 20 ปี เผยวิสัยทัศน์นำองค์กรสู่เบอร์หนึ่งในอสังหาริมทรัพย์กลุ่มไลฟ์สไตล์และฮอสพิทัลลิตี้ Lifestyle and Hospitality Real Estate เตรียมจับมือเชนโรงแรมระดับโลกปั้น Branded Residence  ในภูเก็ต “Peylaa Phuket Bang Tao” คอนโดฯ แบบมิกซ์ยูสมูลค่า 3,700 ล้านบาท

12

 กลั่นประสบการณ์ เจาะตลาดอสังหาฯ กลุ่มไลฟ์สไตล์และฮอสพิทัลลิตี้

จากโรงแรมหรูที่นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติชื่นชม “คิมป์ตัน คีตาเล สมุย” โครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี “ต้นสนวันเรสซิเดนซ์” ในทำเลสะดวกสบายใจกลางเมืองที่มีความเป็นส่วนตัวสูงสุด โครงการแคนวาส ไลฟ์สไตล์มิกซ์ยูสแห่งแรกในย่านเพลินจิตที่ผสมผสาน flexible workspace ร้านอาหาร กาแฟ สุขภาพและยิมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โครงการโรงแรมไลฟ์สไตล์ระดับ 5 ดาวที่กลุ่มแค๊ปสโตน แอสเสทกำลังพัฒนาบนหาดนาใต้ที่กำลังกลายมาเป็น lifestyle luxury destination แห่งใหม่ รวมถึงโครงการใหม่ล่าสุดบนเกาะภูเก็ต “Peylaa Phuket Bang Tao” มิกซ์ยูสคอนโดมิเนียมที่โดดเด่นด้วยการเป็น Branded Residence ภายใต้การจับมือระหว่างบริษัท แค๊ปสโตน แอสเสท จำกัด ที่นำองค์กรโดยนายฐิติวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ กรรมการบริหาร บริษัท แค๊ปสโตน แอสเสท จำกัด กับเครือโรงแรมระดับโลกที่จะมาจุดประกายประสบการณ์การอยู่อาศัยที่แตกต่างอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในไทย

ความหลากหลายของโครงการต่างๆ มีความร่วมกันประการหนึ่งคือแต่ละโครงการนิยามด้วยการออกแบบที่โดดเด่นและนวัตกรรมที่มีเป้าหมายเฉพาะชัดเจน สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่นายฐิติวัฒน์ หุ้นส่วนผู้บริหารของแค๊ปสโตน แอสเสท วางไว้ นั่นคือความมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในตลาดกลุ่มไลฟ์สไตล์และฮอสพิทัลลิตี้ โดยวิสัยทัศน์ดังกล่าวสอดคล้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งเป็นเครื่องจักรสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ

“เรายึดหลัก “หนึ่งโครงการ หนึ่งแบรนด์” โดยออกแบบให้แต่ละโครงการมีดีไซน์และนวัตกรรมเฉพาะตัว ตอบโจทย์บริบท ตลาดและกลุ่มเป้าหมายของโครงการนั้นอย่างแท้จริง เพื่อให้ทุกแบรนด์มีเอกลักษณ์โดดเด่นและมีตัวตนเป็นของตนเอง” นายฐิติวัฒน์กล่าว

ตั้งเป้าสู่เบอร์หนึ่งกลุ่มอสังหาฯ “ไลฟ์สไตล์และฮอสพิทัลลิตี้”

สำหรับในช่วง ถึง ปีต่อจากนี้ นายฐิติวัฒน์ เผยว่าได้วางเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลุ่ม ไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Real Estate)” และ ฮอสพิทัลลิตี้ (Hospitality Real Estate)” โดยจะมุ่งเน้นพัฒนาโครงการโรงแรมและคอนโดมิเนียมที่ผสานประสบการณ์ทั้งสองรูปแบบเข้าด้วยกัน เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีดีเวลลอปเปอร์รายใดจับตลาดนี้อย่างชัดเจน ประกอบกับเทรนด์ของตลาดและผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ให้ความสำคัญกับเรื่องประสบการณ์การอยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งเป็นเทรนด์ที่มาแรงเห็นได้จากกลุ่มโรงแรมชั้นนำระดับโลกมีการเพิ่มแบรนด์โรงแรมใหม่ ซึ่งมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ตอบสนองไลฟ์สไตล์การพักอาศัยที่แตกต่างจากแบรนด์เดิม

นอกจากนี้ ยังมองว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่ในกลุ่มฮอสพิทาลิตี้สำหรับเมืองไทย ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะอยู่ในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งถือเป็นพระเอกในการสร้างรายได้ให้กับประเทศมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แม้ว่าจะสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมจะยังไม่ดีมากนัก แต่เชื่อว่าธุรกิจธุรกิจท่องเที่ยวในปีนี้ยังสร้างรายได้หลักให้กับประเทศเช่นเดิม เนื่องจากประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ ภูเก็ต สมุย พัทยา กระบี่ และเชียงใหม่ อย่างกรณีจังหวัดภูเก็ตในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมากและเติบโตได้อีกยาวนาน เพราะเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงระดับโลก พูดได้ว่า การเติบโตของจังหวัดภูเก็ตไม่ได้พึ่งพิงเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยอีกต่อไป แต่มีเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวของมันเองอย่างแท้จริง

ตกผลึกความสำเร็จจากห้องเรียนสู่สนามจริง

ภายหลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน แอนน์ อาร์เบอร์ และระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา นายฐิติวัฒน์ที่สนใจและคลั่งไคล้เรื่องอสังหาริมทรัพย์เป็นพิเศษ ได้มีโอกาสเข้าฝึกงานกับเลห์แมน บราเธอร์ส (Lehman Brothers) ในส่วนที่เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จึงยิ่งทำให้มั่นใจในเส้นทางที่อยากเดิน ต่อมานายฐิติวัฒน์ได้ร่วมงานกับเลห์แมน บราเธอร์สในประเทศไทย โดยมีหน้าที่รับผิดชอบด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ในอีกหลายปีต่อมา ยังได้สั่งสมประสบการณ์ด้านการพัฒนาและลงทุนในส่วนโรงแรมอีกหลายแห่งจากการเข้าร่วมงานกับบริษัท ไมเนอร์อินเตอร์เนชันแนล จำกัด (มหาชน) นานกว่า 5 ปี โดยมีหน้าที่ความรับผิดชอบดูแลกลุ่มธุรกิจโรงแรมด้าน M&A (Mergers and Acquisitions) หรือการควบรวมและซื้อกิจการและการขยายธุรกิจ โดยมีส่วนสำคัญในการพัฒนาโรงแรมและดูแลโครงการที่มีทั้งโรงแรมและแบรนด์เดดเรสซิเดนซ์ ก่อนจะเริ่มต้นดำเนินธุรกิจของตนเอง ด้วยการจัดตั้งบริษัท แค๊ปสโตน แอสเสท จำกัด ในปี 2562 มีการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันรวม 8 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 14,000 ล้านบาท

เสน่ห์ของอสังหาฯ คือความแปลกใหม่ในทุกวัน

นายฐิติวัฒน์เผยต่อว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นธุรกิจที่มีเสน่ห์ในเรื่องของการทำงานที่ไม่ซ้ำกัน เป็นการทำงานที่ต้องตีโจทย์ใหม่ตลอดเวลา เป็นงานที่ท้าทายอยู่เสมอ แม้แต่โครงการลักษณะเดียวกันก็เป็นการตีโจทย์ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน และบริษัทไม่ได้พัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์เดียวที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ แต่มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ มีเอกลักษณ์และมีซินเนอรจี้ ซึ่งมีกลิ่นอายการผสมผสานกันระหว่างโรงแรมและที่อยู่อาศัย

เจาะตลาดภูเก็ต มั่นใจในศักยภาพที่แตกต่าง

ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ผันผวน นายฐิติวัฒน์กลับมองเห็นโอกาสของอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้เพราะความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างจากที่อื่น ประกอบกับการเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ทำให้ภูเก็ตเป็นหนึ่งในทำเลที่น่าสนใจที่สุด ผมเชื่อมั่นในตลาดภูเก็ตมากและเชื่อว่าตลาดจะเติบโตได้อีกยาวนาน ภูเก็ตมีพลังขับเคลื่อนของตัวเอง มีสนามบินนานาชาติ ไม่ว่าเศรษฐกิจภาพรวมจะเป็นอย่างไร หรือสถานการณ์การเมืองไทยจะเป็นอย่างไร กระทบต่อตลาดในภูเก็ตน้อยมาก ถึงมีเหตุการณ์อะไรมากระทบ ก็จะกลับมาเติบโตต่ออย่างรวดเร็ว และภูเก็ตจะยิ่งเติบโตได้มากขึ้นหากสถานการณ์ของประเทศมีความแข็งแรงกว่านี้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าตลาดภูเก็ตยังไปได้ไกลมากยิ่งขึ้น และขึ้นเป็นรีสอร์ตเดสทิเนชั่นที่ดีที่สุดในเอเชีย เพราะเป็นศูนย์กลางเอเชียด้วย เดินทางมาสะดวกเพราะมีไฟล์ทบินตรงจากหลายๆประเทศ จากจีนก็ใกล้และมาจากยุโรปก็ใกล้ ผมจึงเชื่อมั่นภูเก็ตยังโตไปได้อีกยาวนานแน่นอนนายฐิติวัฒน์ กล่าว

เตรียมเปิด Branded Residence ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ในการอยู่อาศัย

จากความเชื่อมั่นและเห็นศักยภาพของจังหวัดภูเก็ต บริษัทจึงพัฒนาโครงการ เพย์ลา ภูเก็ต บางเทา” (PEYLAA Phuket Bang Tao) ในรูปแบบโครงการคอนโดมิเนียมหรูมูลค่า 3,700 ล้านบาท ตั้งอยู่บริเวณหาดบางเทา พื้นที่ขนาด 10 ไร่ 1 งาน 94.4 ตารางวา ประกอบด้วยอาคารพักอาศัยสูง 7 ชั้น จำนวน 3 อาคาร รวมห้องพักทั้งหมด 408 ยูนิต  ประกอบด้วยห้องขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่เริ่มต้นที่ 45 ตร.ม. ขนาด  2 ห้องนอน พื้นที่ 82 ตร.ม. และ 90 ตร.ม. และห้องพิเศษคอมไบน์  3 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 127 ตร.ม. ทุกห้องตกแต่งแบบ Fully Furnished พร้อมอยู่อาศัย

“ปัจจุบันกำลังคุยรายละเอียดกับเชนโรงแรมระดับโลกอยู่และคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ในเดือนกันยายนปีนี้ ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีเอกลักษณ์ สร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่พิเศษสุดและแตกต่างจากทุกโครงการในประเทศ” นายฐิติวัฒน์กล่าวในตอนท้าย

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon