ASAP กำไรปี61ทะยานแรง โบรกอัพเป้าราคาใหม่ 13 บ.

188

มิติหุ้น – ASAP ธุรกิจปี 2561 แข็งแกร่ง ส่องกำไรเติบโตแรง 65% รับแรงหนุนจากกองรถเช่าที่เพิ่มขึ้นอีก 17% และตลาดรถมือสองฟื้นตัวต่อเนื่อง โบรกเพิ่มน้ำหนักลงทุน พร้อมปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 13.00 บาท

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า หุ้น บมจ. ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ หรือ ASAP ผลงานปี 2561 เติบโตแข็งแกร่งจากพอร์ตรถเช่าที่ขยายตัว โดยนางสาวจุฑามาศ เต็มวัฒนางกูร นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บจ.หลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยคาดกำไรจากการดำเนินงานปกติปี 2561 อยู่ที่ 147 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65% จากการขยายกองรถเช่า, การหาลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้าธุรกิจ และรายได้จากการขายรถมือสองที่เพิ่มขึ้นจากการขยายช่องทางการขายที่หลากหลาย โดยเฉพาะ asap Auto Park ที่จะสามารถเริ่มให้บริการในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งมองว่า ASAP จะมีรายได้จากการเช่าเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อการดำเนินงานมากขึ้น โดยได้ปรับประมาณการเพิ่มกองรถเช่าในปี 2561 เพิ่มขึ้น 17% อยู่ที่ 1.3 หมื่นคัน และมีสัดส่วนรถเช่าระยะยาวอยู่ที่ 94% โดยคาดว่ากองรถเช่าระยะยาวจะขยายตัวคิดเป็น CAGR ปี 2561-2562 ที่ 26% ในขณะที่ธุรกิจรถเช่าระยะสั้น มองว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นตามความร่วมมือกับ Online Booking เช่น ZuZuChe และ Ctrip เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวประเทศจีน และรัสเซีย โดยรวมคาดว่ารายได้จากการเช่ารถจะเพิ่มขึ้นที่ 24% แต่ปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นมาอยู่ที่ 24.5%

อัพราคาเป้าหมาย13.00บาท

สำหรับธุรกิจขายรถยนต์มือสอง มองว่า ASAP จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 32% จากจำนวนรถที่ขายเพิ่มขึ้น โดยคาดไว้ที่ 1.5 พันคัน และราคารถยนต์มือสองที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ตามการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายนอกเหนือจากการขายผ่านลานประมูล ซึ่งมองว่า ASAP จะขายรถผ่านทาง One2car.com และศูนย์ขายรถ มือสองที่ asap Auto Park คาดอัตรากำไรขั้นต้นของรถขายเพิ่มขึ้นที่ 10.2%

โดยฝ่ายวิจัยเพิ่มนำหนักการลงทุนในหุ้น ASAP เป็น “ซื้อ” โดยมีราคาเป้าหมายใหม่ 13.00 บาท จากเดิมที่ 9.30 บาท จากโอกาสการเติบโตทางธุรกิจในอนาคตตามการขยายฐานรถยนต์ให้เช่าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถที่ใช้ในการขนส่งที่มองว่าจะสามารถเพิ่มขึ้นได้ตามการเข้ามาของ E-Commerce มากขึ้น และแนวโน้มการปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจมาเช่ารถแทนการซื้อรถเพื่อดำเนินงานเพิ่มขึ้นรวมทั้งราคารถยนต์มือสองที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะยาว

ทั้งนี้ หุ้น ASAP หลุดจากหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย หรือ Cash Balance เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยราคาหุ้นปิดการซื้อขายที่ระดับ 10.80 บาท ลดลง 0.40 บาท เปลี่ยนแปลง 3.57% มูลค่าการซื้อขายรวม 14.85 ล้านบาท