TSE ขายหุ้น บ.ย่อยให้ FPI เตรียมบุ๊คกำไรพิเศษราว 400-500 ลบ.

200

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ หรือ TSE โดยนางสาวแคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ได้ขายหุ้น บริษัท ทีเอสอี โอเวอร์ซีส์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ให้กับ บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ หรือ FPI ในจำนวน 40% เพื่อร่วมลงทุนในการพัฒนาโครงการโซลาฟาร์มที่ญี่ปุ่นจำนวน 8 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 176.72 เมกะวัตต์ มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2562 และขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ทั้งหมดในปี 2565

ขณะเดียวกัน บริษัทจะนำเงินในการขายหุ้นของบริษัทย่อยดังกล่าวและเงินสดรวม 2,250 ล้านบาท ชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เพื่อลดสัดส่วน D/E ให้เหลือ 1.2 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.7 เท่า รวมถึงลดต้นทุนดอกเบี้ยราว 40-50 ล้านบาทต่อปี จากปัจจุบันที่จ่ายมากกว่า 100 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้จะสามารถบันทึกกำไรพิเศษจากการขายหุ้นบริษัทย่อยในช่วงไตรมาส 3/61 ซึ่งจะบันทึกทั้งหมดในงบเดี่ยวของบริษัท โดยหลังหักรายการระหว่างกันจะแสดงเป็นกำไรในงบรวมราว 400-500 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาซื้อโครงการที่ประเทศญี่ปุ่นอีก 1-2 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตราว 80-100 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปตั้งแต่ไตรมาส 3/61 เป็นต้นไป ส่วนในประเทศอยู่ระหว่างเจรจาซื้อโครงการโรงไฟฟ้าไบโอแมสอีก 2-3 แห่ง กำลังการผลิตราว 24 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้

นางสาวแคทลีน กล่าวอีกว่า บริษัทเตรียมย้ายเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในไตรมาส 3/61 เนื่องจากที่ผ่านมามีนักลงทุนสถาบันทั้งใน-ต่างประเทศให้ความสนใจเข้าลงทุนในหุ้นของบริษัทเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ซึ่งการย้ายเข้า SET จะทำให้มีนักลงทุนสถาบันเข้ามาถือหุ้นมากขึ้น

อีกทั้งบริษัทคาดว่าจะนำบริษัท ทีเอสอี โอเวอร์ซีส์ กรุ๊ป จัดตั้งเป็นกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) ขายหุ้น IPO ภายใน 2-3 ปี เพื่อระดมเงินทุนขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นในอนาคต