KTC ลุ้นยืนเหนือ 27 บาท กูรูแนะพื้นฐานปึ๊ก ครึ่งปีหลังมีโอกาสอัพกำไรเพิ่ม

259

มิติหุ้น-ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น  KTC หรือ บมจ.บัตรกรุงไทย ปรับขึ้นสูงสุด 28.75 บาท/หุ้น +24.46 % ส่วนราคาล่าสุด(15.16 น.) อยู่ที่ 26.50 บาท บวก 3.40 บาท หรือ+14.72 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2,383.42 ล้านบาท ภายหลังจากเมื่อวาน(16 ก.ค.) ราคาหุ้นปรับลงช่วงท้ายกระดาน 30 % ปิดที่ 23.10 บาท/หุ้น โดยมีข่าวลือในห้องค้าว่ามีกลุ่มนักลงรายทุนทุบเพื่อหวังเข้าไปเก็บทำกำไร หลังจากผลประกอบการออกมาดี กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

โดย KTC แจ้งว่า บริษัท มีกำไรไตรมาส 2/2561 ที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและ เติบโต 8% จากไตรมาส 1/2561

ด้านนายวิจิตร  อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) เปิดเผยผ่านรายการLIVEสด “มิติหุ้น-ชีชัดลงทุน” ว่า ระยะสั้นราคาหุ้น KTC มีโอกาสเหวี่ยงแรง จากเครื่องมือการลงทุน ทั้งธุรกรรมขายชอต(Short sell) ที่มีโอกาสถูกบังคับขาย การซื้อขายรายใหญ่ผ่าน บล็อกเทรด รวมถึงการลงทุน ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์(DW) ที่อ้างอิงราคาหุ้น KTC จึงยังคงแนะนำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงลงทุนออกไปก่อน แต่หากจะเก็งกำไรระยะสั้น ก็แนะนำให้ดูว่าวันนี้ราคาสามารถยืนเหนือเส้น 200 วันได้หรือไม่ โดยต้องยืนเหนือเหนือ 27 บาท ก็มีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อ

ส่วนปัจจัยพื้นฐานภายหลังผลประกอบการไตรมาส2/2561 ออกมาดีและยังสามารถทำนิวไฮได้ต่อเนื่อง และถือว่าดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ เช่นเดียวกับบทวิเคราะห์ของ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) โดยหากรวมกำไรช่วงครึ่งแรกของปีนี้คิดเป็น 65 % ของประมาณกำไรกำไรรวมทั้งปีนี้ จึงมีโอกาสที่ฝ่ายวิจัยจะปรับประมาณการณ์กำไรเพิ่มช่วงครึ่งหลัง

ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวงระบุว่า  KTC รายงานกำไรไตรมาส 2/61 ที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 8% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยผลประกอบการออกมาดีกว่าที่เราคาด 34% และสูงกว่าที่ตลาดประเมิน 14% เนื่องจากมีการตั้งสำรองหนี้สูญฯ น้อยกว่าประมาณการ การตั้งสำรองฯสุทธิ (หลังหักหนี้สูญได้รับคืน) มาอยู่ที่ 525 ล้านบาท ลดลง 47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 7% ไตรมาสก่อนหน้า  ขณะที่เราคาดที่ 800 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงานที่ไม่รวมสำรองหนี้เสียอยู่ที่ 2.16 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 4% ไตรมาสก่อนหน้า กำไรช่วงครึ่งแรกของปี 2561 อยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 66% YoY) คิดเป็น 55% ของประมาณการปี 2561 เราที่ 4.58 พันล้านบาท

จึงคาดกำไรไตรมาส 3/61 จะเติบโตในระดับกลางจากช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนโดยแนวโน้มสินเชื่อขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสที่แล้วและแนวโน้มการตั้งสำรองฯ ลดลง จึงไม่เปลี่ยนแปลงกำไรทั้งปี 61 ที่ 4.58 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 39 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนปี 2562 คาดว่ากำไรจะเติบโตลดลงเหลือเพียง 7 % เท่านั้น จึงปรับลดราคาแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมายปีนี้ลงจาก 39 บาท เหลือ 32 บาท/หุ้น

www.mitihoon.com