กนง. เสียงแตก คงอัตราดอกเบี้ย 1.50%

68

                เป็นไปตามคาด ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2561  มีมติ 6 : 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่อัตรา 1.50% ต่อปี

เป็นการคงอัตราดอกเบี้ยระดับ 1.50% ติดต่อกันเป็นเวลายาวนาน แม้ว่าต่างประเทศจะส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ประกาศจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 2 ครั้งจนถึงสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอยู่ที่ 1.50-1.75% จึงไม่แปลกที่เงินทุนจะไหลออกจากกลุ่มประเทศเกิดใหม่ รวมทั้งไทย แล้วไหลไปยังตลาดสหรัฐ ซึ่งวัดได้จากค่าเงินบาทในปัจจุบันที่อ่อนค่าลงราว 6% จากไตรมาส 1 ล่าสุดมาอยู่เฉลี่ย 33.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากทึ่เคยแข็งค่าเกือบหลุด 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา

            ขณะที่นักวิเคราะห์ได้ออกมาให้ความเห็น หลัง กนง.มีมติดังกล่าวออกมา ว่า การคงอัตราดอกเบี้ยของ กนง. สอดคล้องกับที่ตลาดคาดหมาย พร้อมกับคงความเห็นว่า กนง. มีโอกาสที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี 61    

ทั้งนี้ ที่ประชุม กนง.ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ตามแรงส่งจากอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีทิศทางเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับผ่อนคลาย และเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เสถียรภาพระบบการเงินโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี

อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามความเสี่ยงที่อาจสะสมความเปราะบางในระบบการเงินได้ในอนาคต โดยเฉพาะจากภาวะการเงินที่ผ่อนคลายเป็นเวลานาน ขณะที่นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในระดับปัจจุบัน มีส่วนช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจและสอดคล้องกับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ กรรมการส่วนใหญ่ “จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้”

ส่วนกรรมการ 1 ท่าน เห็นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีความชัดเจนเพียงพอ และภาวะการเงินที่ผ่อนคลายมากอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้ประชาชนและภาคธุรกิจประเมินความเสี่ยงของภาวะการเงินในอนาคตต่ำกว่าที่ควร “จึงเห็นควรให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้” เพื่อลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงิน ซึ่งจะมีผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว และเพื่อเริ่มสร้างขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (policy space) สำหรับอนาคต

การประชุมนัดถัดไป อีก 6 สัปดาห์จากนี้ ต้องจับตาดูว่า กนง.เสียงจะแตกอีกหรือไม่

                                                                        “บิ๊กเซ็ต”