ECF เปิดเส้นทางรายได้หมื่นล. เดินเกมรุกพลังงานเกิน50MW

237

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค หรือ ECF โดย “นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์” กรรมการผู้จัดการ เผยว่า ภายใน 3 ปีข้างหน้า (61-63) บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมแตะ 1 หมื่นล้านบาท เพราะธุรกิจจะเติบโตในทุกภาคส่วน โดยโครงสร้างรายได้จะเปลี่ยนเป็น ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ 30% , ธุรกิจพลังงาน30%, ธุรกิจ IT 30% และ ธุรกิจผลิตแผ่นไม้เอ็มดีเอฟ (MDF Board) อื่นๆอีก 10%
การันตีผลงานปี61สุดแจ่ม
ส่วนในปี 2561 มั่นใจผลงานจะเติบโตสูงกว่าปีก่อน โดย “ธุรกิจเฟอนิเจอร์” คาดรายได้จะเติบโต 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.33 พันล้านบาท ขณะที่ “ธุรกิจพลังงาน” จะเติบโตโดดเด่น จากการรับรู้กำไรและรายได้โรงไฟฟ้า จ.นราธิวาส ขนาด 7.5 MW เข้ามาเต็มปี (เริ่ม COD 27 มิ.ย.60)
รวมถึงยังมีโรงไฟฟ้าชีวมวล จาก “บจ.บิน่า พูรี่ พาวเวอร์ (ไทยแลนด์) หรือ BINA” จ.แพร่ จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการอ.ลอง ขนาด 1 MW ได้ COD ไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ส.ค.61 ส่วนโครงการอ.สูงเม่น ขนาด 1 MW คาดจะสามารถ COD ได้ภายในเดือน ธ.ค.61 นี้
โดยโรงไฟฟ้าของ BINA นั้น บริษัทได้ลงทุนผ่านบริษัทย่อยที่ถือหุ้น 99.99% คือ “บจ.อีซีเอฟ พาวเวอร์ หรือ ECF-P” ซึ่งลงทุนใน “บจ.เซฟ เอนเนอร์จี โฮลดิ้งส์ หรือ SAFE (ECF-P ถือหุ้น 33.37%) โดย SAFE เป็นผู้เข้าลงทุนใน BINA ที่สัดส่วน 49% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
โชว์พลังงาน50MW-ลุ้นทำดีล30MW
สำหรับโรงไฟฟ้ามินบู ประเทศเมียนมา ขนาด 220 MW ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 20% นั้น คาดเฟสที่ 1ขนาด 50 MW จะสามารถ COD ได้ต้นปี 2562 และอีก 3 เฟสที่เหลือคาดแล้วเสร็จพร้อม COD ภายในปี 2563 ทั้งนี้หากแบ่งตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ 20% ก็คิดเป็น 40 MW รวมกับโรงไฟฟ้าในไทยอีก 9.5 MW ทำให้มีโรงไฟฟ้าเกือบ 50 MW
พร้อมกันนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลและโซลาร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มเติมอีก 30-40 MW โดยจะเป็นโปรเจ็กต์ร่วมทุน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปลายปี 2561 นี้
ส่วนความคืบหน้าการศึกษาร่วมลงทุนระหว่าง ECF และ “บจ.เอสเทรค (ประเทศไทย) หรือ S-TREK” ในธุรกิจ IT Solution คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน ไตรมาส 3/2561 นี้ และหากการร่วมทุนเป็นผลสำเร็จจะทำให้รายได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต

www.mitihoon.com