EPG โชว์ผลประกอบการไตรมาสแรกปี 61/62 มีรายได้จากการขาย 2,623 ลบ. มั่นใจธุรกิจเติบโต ทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ เร่งรุกขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศทุกช่องทาง

78

มิติหุ้น-รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) EPG ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์และพลาสติกแปรรูปชั้นนำของโลก เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 61/62 (เม.ย.61 – มิ.ย.61) บริษัทมีรายได้จากการขาย 2,623 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 2,382 ล้านบาท จำนวน 241 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 10% ส่งผลให้ EPG มีกำไรสุทธิ 305 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 287 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 29% ซึ่งบริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

ทั้งนี้เป็นผลจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex มียอดขายรวม 733 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดขายของบริษัทเติบโตจากตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หากไลน์การผลิตใหม่ใน สหรัฐอเมริกาสามารถเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตได้จะส่งผลให้กำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นตาม

ขณะที่ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeoroklas เติบโตได้ดี มียอดขายรวม 1,282 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากผลิตภัณฑ์ประเภท พื้นปูกระบะ (Bed Liner)  หลังคาครอบกระบะ (Canopy) และบันไดข้างรถกระบะ (Sidestep) รวมถึงรายได้จากธุรกิจในต่างประเทศ ได้แก่ TJM Products Pty.Ltd และ Flexiglass Challenge Pty.Ltd ซึ่งเป็นช่องทางจัดจำหน่ายที่สำคัญของ แอร์โรคลาส ในประเทศออสเตรเลีย

สำหรับพื้นปูกระบะ (Bed Liner) นั้น แอร์โรคลาส เริ่มขยายตลาดไปต่างประเทศมากขึ้น ทั้งในประเทศมาเลเซีย และประเทศจีน นอกจากนี้ แอร์โรคลาส มีผลิตภัณฑ์ใหม่หลายชนิดที่จะทยอยสู่ตลาด ได้แก่ 1.ผลิตภัณฑ์บันไดข้างรถกระบะ (Side Step) ซึ่งออกแบบใหม่ให้กับบริษัทรถยนต์ 2.ผลิตภัณฑ์เดิมของ แอร์โรคลาส แต่ออกรุ่นใหม่ๆ เพิ่มเติม  3. E-Z Up and down ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้การเปิดปิดท้ายรถกระบะง่ายขึ้นเมื่อเปิดจะไม่กระแทกและเมื่อปิดสามารถผ่อนแรง เป็นต้น

สำหรับธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP มียอดขายรวม 608 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดขายได้ปรับตัวขึ้นถึงแม้ว่าการบริโภคภายในประเทศยังเติบโตได้ช้ากว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม อีสเทิร์น โพลีแพค มีการลงทุนด้านเครื่องจักรอัตโนมัติความเร็วสูง มีกำลังการผลิตขนาดใหญ่ และได้รับการรับรองมาตรฐานความสะอาด ความปลอดภัยทางด้านอาหาร จากองค์กรชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก จึงได้นำจุดแข็งเหล่านี้มาใช้เป็นเครื่องมือผลักดันธุรกิจ โดยใช้ประโยชน์จากเครื่องจักรให้ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น ได้ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น และเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย โดยภายในปีนี้จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ประมาณ 4 – 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์อาหาร (Food Packaging) แบบใหม่ๆ จำนวนมาก

“แนวโน้มธุรกิจของ EPG ในช่วงต่อจากนี้ คาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ พัฒนาคุณภาพของสินค้า และเร่งขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศทุกช่องทาง ซึ่งบริษัทฯ มีเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจอยู่ 4 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก และธุรกิจร่วมทุน หากธุรกิจในกลุ่มใดชะลอตัว ยังมีกลุ่มอื่นๆ ช่วยสนับสนุน ดังนั้น การเติบโตในปีนี้คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้มีรายได้เติบโตประมาณ 15%” รศ.ดร.เฉลียว กล่าว

www.mitihoon.com