XO มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังโตกระฉูด วางรายได้ปี 61 โตอีก 10-15%อานิสงส์ต้นทุนวัตถุดิบหลักลด – ปรับราคาขายขึ้น

68

มิติหุ้น – XO มั่นใจครึ่งปีหลังแรงได้อีก หลังอวดผลงานครึ่งปีแรกกำไรทำสถิติใหม่นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดินหน้าปรับเป้ารายได้ปี 61 เป็นเติบโตอีก 10-15% รับอานิสงส์อาหารไทยขึ้นแท่น Mega Trend ในตลาดอาหารโลก ดันยอดขายสินค้ากลุ่มซอสเติบโต รวมทั้ง ปัจจัยสนับสนุนจากต้นทุนวัตถุดิบหลักลดลง การล็อคต้นทุนน้ำตาลและกระเทียมในราคาต่ำได้ยาวถึงกลางปี 62 และการปรับราคาขายสินค้าขึ้นเฉลี่ย 2% เริ่มเห็นผลในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้เป็นต้นไป “จิตติพร จันทรัช” เอ็มดี มั่นใจยุคปีทองต่อเนื่องถึงปีหน้า ยันเดินแผนบริหารจัดการภายใน และการรุกตลาดใหม่ๆ ไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวังแน่นอน 
นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการครึ่งหลัง ปี 2561 มีแนวโน้มเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก มั่นใจเป้าหมายรายได้ทั้งปีนี้ จะเติบโต 10% – 15% เมื่อเทียบกับปี 2560 รายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 947 ล้านบาท กำไรสุทธิ 59 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ ทั้งรายได้และกำไร
ปัจจัยหลักที่หนุนการเติบโตมาจากแผนการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบหลัก ทั้งน้ำตาลและกระเทียมที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทฯ ได้ทำสัญญาซื้อน้ำตาลในราคาต่ำกว่าปีก่อน 20% ซึ่งน้ำตาลคิดเป็นสัดส่วน 9% ของต้นทุนขาย และทำสัญญาซื้อน้ำตาลล่วงหน้ากับคู่ค้าไปจนถึงกลางปี 2562 ในราคาน้ำตาลที่ปรับตัวลงอีก 18% จากราคาน้ำตาลที่ทำสัญญาเมื่อต้นปี เพื่อควบคุมให้อยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า โดยคาดว่าจะเริ่มใช้น้ำตาลล็อตใหม่ในไตรมาส 4/2561 นี้ ขณะที่ราคากระเทียมก็ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน และได้ทำสัญญาซื้อกระเทียมล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในราคาที่ต่ำกว่าปีก่อน  70%  ซึ่งกระเทียมคิดเป็นสัดส่วน 5% ของต้นทุนขาย ส่วนพริก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในต้นทุนวัตถุดิบหลัก ราคาทรงตัวในระดับที่ควบคุมได้
นอกจากนี้ บริษัทได้ทยอยปรับราคาขายสินค้าของบริษัทฯ ในแต่ละสินค้าไม่เท่ากัน เฉลี่ยประมาณ 2% ในยอดขายที่เป็นสกุลเงินบาท และดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันกว่า 90% ของยอดขายทั้งหมด เริ่มเห็นผลตั้งแต่ไตรมาส 3/2561 และในไตรมาส 4/2561 นี้เป็นต้นไป และการขยายตลาดไปยังประเทศใหม่กว่า 13 ประเทศ โดยมุ่งเน้นสินค้ากลุ่มซอสและน้ำจิ้ม ซึ่งเป็นสินค้ากลุ่มหลักของบริษัทฯ มีสัดส่วนราว 80% ของรายได้จากการขายทั้งหมด และมีอัตรากำไรที่สูงที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ
ทั้งนี้ ปัจจุบันโรงงานแห่งใหม่ ที่นิคมอมตะซิตี้ จ.ระยอง มีอัตรากำลังการผลิตที่ระดับ 51% ขณะที่ โรงงานแห่งเดิม ยังใช้ผลิตสินค้ากลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้มที่มีออเดอร์ขนาดเล็ก และผลิตกลุ่มสินค้าอื่นๆ  โดยคาดว่า อัตรากำลังการผลิตในโรงงานแห่งใหม่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามแผนการขยายตลาด และภาพรวมอาหารไทยที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในตลาดอาหารโลก
สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 89.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 196.84 จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 30.04 ล้านบาท ส่วนอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 16.77 มีรายได้จากการขาย 531.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 10.27 จากปริมาณการขายสินค้ากลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้มต่างๆ ซึ่งเป็นสินค้ากลุ่มหลัก มีปริมาณการขายสินค้ารวมเติบโตขึ้นอยู่ที่ 7,191 ตัน  มียอดขายเป็นสกุลเงินบาท 60% สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ 30% สกุลเงินยูโร 10%
www.mitihoon.com