5 อันดับข่าวเด่นมิติหุ้นภาคบ่าย

122

อันดับที่ 1 ORI เป้ารายได้ปีนี้โต 1.5 -1.6 หมื่นลบ. แตกไลน์ธุรกิจอาหารหวังสร้างรายได้ประจำเพิ่ม 3-5%

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI โดยนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปี 2561 เติบโตที่ระดับ 15,000-16,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 9,987.72 ล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดรอรับรู้รายได้ 29,000 ล้านบาท คาดรับรู้ปีนี้ราว  8,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทมีสต็อกสินค้าพร้อมขายใน 4 โครงการ ประมาณ 20,000 ยูนิต มูลค่า  7,000 ล้านบาท ซึ่งคาดทยอยรับรู้รายได้เฉลี่ย 1,000-2,000 ล้านบาท/ไตรมาส ส่วนแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่า 27,000 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 23,000 ล้านบาท และแนวราบ 4 โครงการมูลค่า 4,000 ล้านบาท

อันดับที่ 2 EKH คาดรายได้ปีนี้นิวไฮโต 15% ไฮซีซัน -ศูนย์IVF ดันงบครึ่งปีหลังโตทะยาน  

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เอกชัยการแพทย์ หรือ EKH โดยนายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเป้ารายได้ปีนี้เพิ่มเป็น 15% จากเดิมคาดโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 540.98 ล้านบาท ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคาดอยู่ที่ระดับ 38% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากศูนย์ผู้มีบุตรยาก หรือศูนย์เด็กหลอดแก้ว (IVF)  ที่เปิดให้บริการตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา คาดปีนี้มีลูกค้าใช้บริการประมาณ 150 ราย ขณะเดียวกันในครึ่งปีหลังธุรกิจเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ส่งผลให้มีอัตราการใช้เตียงเพิ่มขึ้นเกือบ 100% จากเดิมเฉลี่ยราว 85% จึงคาดผลการดำเนินงานปีนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อันดับที่ 3 ASEFA เผยครึ่งปีหลังโตดี ตุนงานกว่า 2 พันลบ.จ่อบุ๊กปีนี้ 60%

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่าบมจ.อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA โดยนายวิชัย สุนทรวุฒิกุล ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส เปิดเผยว่า บริษัทยอมรับว่ารายได้ปีนี้อาจจะเติบโตไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ที่ 15% เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกรายได้บริษัทอยู่ที่ 1322.90 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนปีก่อน เนื่องจากมีการแข่งขันด้านการประกวดราคาสูง ประกอบกับการลงทุนภาคอุตสาหกรรมชะลอตัว ส่งผลให้จำนวนงานและลูกค้าลดลง ขณะเดียวกันบริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรสิทธิให้อยู่ที่ระดับ 8-10% โดยการเพิ่มสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น

อันดับที่ 4 TKN ได้เวลาฟื้นขานรับต้นทุนสาหร่ายลด กูรูให้เป้าสูงสุด 21.50 บาท

มิติหุ้น-ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น TKN ทยอยปรับขึ้นมาในรอบ 2 เดือน ส่วนราคาล่าสุดอยู่ที่หุ้นละ 16.50 บาท บวก 0.30 บาท หรือ+1.85 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 195.24 ล้านบาท นายวิจิตร  อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) เปิดเผยผ่านรายการ “ชี้ชัดลงทุน” ว่า จากสถานการณ์ที่ดัชนีหุ้นไทยโดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ถูกนักลงทุนต่างชาติเทขายออกมา จึงไม่ใช่จังหวะที่น่าเข้าลงทุน จึงแนะนำหุ้นขนาดกลางที่น่าสนใจในสถานการณ์เช่นนี้คือ บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) ที่มีแนวโน้มธุรกิจฟื้นตัว ขานรับต้นทุนสาหร่ายที่ปรับตัวลดลงตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/2561  และยอดขายที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้น จากการเพิ่มสินค้าใหม่ และเตรียมเปิดสำงานตัวแทนในจีน ในเดือน กันยายนนี้ (จากเดิมที่มีผู้กระจายสินค้าในจีนเพียง 2 ราย)

อันดับที่ 5 CBG สัญญาณเทคนิคเปลี่ยน กูรูแนะเก็งกำไรให้แนวต้านสูงสุด 59 บ.

มิติหุ้น-ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น CBG หรือ บมจ.คาราบาวกรุ๊ป ปรับตัวขึ้นแรงตั้งแต่ช่วงเช้าโดยราคาสูงสุดที่ 53 บาท บวก 7.6 % ส่วนราคาล่าสุด(16.05 น.) อยู่ที่ 52.25 บาท/หุ้น บวก 3 บาท หรือ+6.09 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 655.21 ล้านบาทหลังเจอมรสุมรุมเล้าจนส่งผลให้ราคาปรับลงมาจน Down side risk จำกัด ขณะที่ บทวิเคราะห์เทคนิค บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำ CBG โดยให้ราคาเป้าหมายแรกอยู่ที่ 56.50 บาท/หุ้น และมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 66 บาท (จุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 46 บาท) ด้านบทวิเคราะห์เทคนิค บล.ไอร่า  แนะ Follow Buy หุ้น CBG  หากราคายืนเหนือ 50 บาท แนะนำเล่นสั้นและรอบใหญ่ โดยให้แนวรับที่ 48.50/48 บาท ส่วนแนวต้านที่ 54/59 บาท  และแนะนำตัดขาดทุนหาราคาปรับลงมาที่ 47 บาท/หุ้น

www.mitihoon.com