PRINC จัดงบ 8.8 พันลบ. เดินหน้าเทกฯโรงพยาบาลเสริมพอร์ต พร้อมตัดขายอสังหาฯ บางส่วน หวังพลิกกำไรจัดจ้านปี63

358

มิติหุ้น – PRINC คาดปีนี้ขาดทุนลดลง จากปีก่อนขาดทุน 173 ลบ. หลังธุรกิจการแพทย์เริ่มสร้างกำไร-เริ่มขายสินทรัพย์ประเภทอสังหาฯ คาดรายได้ปีนี้โต 20% ปักธงปี 66 รายได้แตะ 5 พันลบ.  ทุ่มงบ 8.8 พันลบ. ใช้ลงทุน 5 ปี หวังฮุบ-ร่วมทุนโรงพยาบาล ตจว.เพิ่ม หวังมีรวม 20 แห่งในปี 66

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. พริ้นซิเพิล แคปิตอล หรือ PRINC โดย นายสาธิต วิทยากร ประธานคณะกรรมการบริหาร เผยว่า บริษัทคาดปีนี้จะขาดทุนลดลง จากปีก่อนที่ขาดทุน 173 ล้านบาท เนื่องด้วยธุรกิจโรงพยาบาลที่มีอยู่ในพอร์ตได้เริ่มสร้างกำไร โดนขณะนี้มีอยู่ 7 แห่งที่พลิกมีกำไรแล้ว แต่ยังมีอีก 1 แห่ง ที่ยังมีผลขาดทุน ทั้งนี้ โรงพยาบาลที่มีอยู่ เป็นการเข้าซื้อกิจการ จึงทำให้ยังมีค่าเสื่อมต่อปีจำนวนมาก ซึ่งบริษัทฯ ยังคงพยายามลดต้นทุนทุกภาคส่วนให้ผลการดำเนินงานเข้าสู่จุดสมดุล

ขณะที่ธุรกิจอสังหาฯ ให้เช่าในปัจจุบัน มีอยู่ 3 โครงการ และที่ดิน 1 แปลง ซึ่งทางบริษัทมีความต้องการขายสินทรัพย์ประเภทอสังหาฯ ทั้งหมด เพื่อนำมาลงทุนในธุรกิจการแพทย์ หรือในกรณีโครงการใดให้ผลตอบแทนสูงและมีเสถียรภาพทางการเงินระดับสูง มีโอกาสเก็บไว้เพื่อแสวงหาผลตอบแทนต่อไป เบื้องต้น ที่ดิน 1 แปลง ขณะนี้ได้เตรียมขายให้แก่นายทุนในประเทศแล้ว มูลค่าราว 1,300-1,400 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้กำไรส่วนต่างจากการขายประมาณ 100ล้านบาท บุ๊คเข้ามาเป็นกำไรพิเศษในเร็วๆ นี้

สำหรับรายได้ปีนี้ มั่นใจจะเติบโตได้ 20% จากปีก่อนที่มีรายได้2.85 พันล้านบาท จากธุรกิจให้บริการทางการแพทย์ที่เติบโต และยังมีรายได้ประจำจากธุรกิจอสังหาฯ เข้ามาบางส่วน พร้อมคาดปี 2566 จะมีรายได้รวมอยู่ที่ 5,000ล้านบาท ตามโรงพยาบาลที่มีอยู่ในมือมากกว่า 20 แห่ง

พร้อมกันนี้ ได้วางงบลงทุนปี 62-66 ไว้ที่ 8,800 ล้านบาท โดยจะใช้ในปีนี้ 1,600 ล้านบาท เพื่อนำมาซื้อโรงพยาบาลในต่างจังหวัด 4 แห่ง ในพื้นที่ที่ไม่มีโรงพยาบาลเอกชน หรือมีอยู่เพียง 1-2แห่งในจังหวัดนั้น และนำมาร่วมทุนระหว่างพันธมิตรในธุรกิจการแพทย์ในเชิงของการเข้าซื้อหุ้นบางส่วน เพื่อเข้าลงทุนระยะยาว โดยเงินทุนส่วนใหญ่มาจากการกู้สถาบันการเงิน ที่มีอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ อายุสัญญา8-10ปี มั่นใจว่าสามารถบริหารจัดการหนี้และต้นทุนได้เป็นอย่างดี สำหรับเงินทุนที่เหลือ คาดจะใช้ลงทุนโรงพยาบาลเพิ่มให้มีมากกว่า 20 แห่งในปี 66

นอกจากนี้ เตรียมจัดประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อต้องการให้ได้รับการอนุมัติเพิ่มทุนแบบ PP ประเภท General Mandate โดยจะออกหุ้นใหม่จำนวน 10% จากจำนวนหุ้นทั้งหมด เพื่อให้โอกาสนักลงทุนประเภทกองทุนได้เข้ามาลงทุน ซึ่งปัจจุบันมีกองทุนขนาดใหญ่ราว 3 รายจากต่างประเทศ เข้ามาติดต่อขอซื้อหุ้นบางส่วน