เรียนรู้ต้นทางสร้าง “เด็กธรรมดา” สู่สังคม เปิดพื้นที่ระดมไอเดียสานต่อแคมเปญ “เด็กธรรมดา…คือสิ่งสวยงาม”

294

“ท่ามกลางสังคมแห่งการแข่งขัน การเปรียบเทียบ อาจทำให้เรากำลังลืมไปว่าเด็กต้องการสิ่งใด บางครั้งการมองให้เห็นถึงความธรรมชาติ ความธรรมดาในเด็กคนหนึ่ง และพัฒนาเขาจากจุดนั้น คือสิ่งที่สวยงาม และอาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต” นี่คือส่วนหนึ่งของมุมมองต่อสังคม อันเป็นที่มาของแคมเปญ “เด็กธรรมดา…คือสิ่งสวยงาม” ภายใต้โครงการ ไฟ-ฟ้า (FAI-FAH) โดยทีเอ็มบี ซึ่งเป็นโครงการ “ให้คืน” สังคมอย่างยั่งยืน ด้วยการเปลี่ยนให้ชีวิตดีขึ้น

หลังเปิดตัวแคมเปญไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โครงการไฟ-ฟ้า (FAI-FAH) ได้เดินหน้าสานต่อ โดยจัดกิจกรรม “The Ordinary Mission จุดประกายสร้างเด็กธรรมดา” พร้อมจับมือ 6 สถาบันองค์กร เครือข่ายเพื่อเด็กและเยาวชน จัดเวิร์กชอปร่วมกันถอดองค์ความรู้ของแต่ละองค์กรเพื่อนำไปสู่การสร้างสรรค์ “คู่มือสร้างเด็กธรรมดาให้สังคม” เพื่อนำไปเผยแพร่สู่พ่อแม่ ครู และบุคคลทั่วไปให้ได้เห็นถึงแนวทางในการสนับสนุนและส่งเสริมให้บุตรหลานเป็นเด็กธรรมดาที่มีความสุขในรูปแบบของตนเอง โดยเมื่อสรุปแนวทางเสร็จสิ้น จะจัดทำให้ดาวน์โหลดผ่านช่องทางเว็บไซต์ของมูลนิธิทีเอ็มบี

สำหรับ 6 สถาบัน องค์กร เครือข่ายเพื่อเด็กและเยาวชน ประกอบด้วย

  1. Saturday School ห้องเรียนนอกหลักสูตรวันเสาร์ กับพื้นที่สร้างการมีส่วนร่วมและผลักดันคนรุ่นใหม่ในการพัฒนาศักยภาพสูงสุดอย่างเสมอภาคของเด็กไทย ผ่านกิจกรรมนอกหลักสูตร
  2. Teach For Thailand องค์กรส่งเสริมให้เด็กไทยทุกคนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน
  3. EdWINGS ธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ที่มีความตั้งใจจะเป็นตัวกลาง ในการนำนวัตกรรมที่มีคุณภาพทุกรูปแบบจากนอกห้องเรียนเข้าไปช่วยครูและนักเรียนในโรงเรียนขยายโอกาสทั่วประเทศ
  4. a-chieve ธุรกิจเพื่อสังคมที่ต้องการทำให้นักเรียนมัธยมทั่วประเทศสามารถ เลือกเส้นทางการเรียนและอาชีพทีตนเองรักได้อย่างมั่นใจและตรงกับความชอบ ความถนัดและคุณค่าในชีวิตของตัวเอง
  5. TED Club by TEDxBangkok พื้นที่แห่งโอกาสสำหรับ “เด็กสมัยนี้” ที่สนับสนุนให้พวกเขาได้บอกเล่าความคิด ตั้งคำถามและส่งต่อไอเดียให้สังคมผ่านเวทีของพวกเขาเอง
  6. Eyedropper Fill บริษัทที่ทำงานด้าน “มัลติมีเดียดีไซน์” ที่สนใจใช้งานศิลปะบอกเล่าเรื่องราวของชุมชนคลองเตย ผ่านการสร้างห้องเรียนสุดพิเศษให้กับ “เด็กคลองเตย” จนเกิดโปรเจ็กต์ “Connext Klongtoey”

นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรมห้องเรียนสำหรับพ่อแม่ในการสอนลูกอย่างไรให้เป็นเด็กธรรมดาที่มีความสุข โดยนายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ที่ได้มาร่วมกระตุ้นสังคมไทยให้เปิดโอกาสสร้างพื้นที่แก่เด็กธรรมดา พร้อมจุดประกายให้มีพลังในการค้นหาตัวเอง เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันชุมชน และสังคมและประเทศชาติ ซึ่งมีพ่อแม่ให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังอย่างคับคั่ง

นายแพทย์ประเสริฐ ให้คำแนะนำถึงวิธีการเลี้ยง “เด็กธรรมดา” ให้กลายเป็น “คนธรรมดา” นั่นคือ คนที่เอาตัวรอดได้ ผ่านบันได 7 ชั้น และการพัฒนาเด็ก โดยการมุ่งเน้นสร้างสิ่งที่เรียกว่า EXECUTIVE FUNCTION (EF) หรือ ความสามารถระดับสูงของสมองที่ใช้ในการควบคุมความคิด อารมณ์ และการกระทำ เพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย ซึ่งเป็นตัวกำหนดให้เด็กคนหนึ่งไปได้ดีกว่าเด็กอีกคนหนึ่งได้หรือไม่ในอนาคต โดยการสร้าง EF จะทำได้ในช่วงอายุตั้งแต่ 4-7 ปี และแข็งแรงเต็มที่เมื่อมีอายุ 25 ปี

สิ่งสำคัญในการเลี้ยงลูกต้องไม่กดดัน หรือเปรียบเทียบ เพราะในช่วงวัยหนึ่งเด็กจะพัฒนาโดยอัตโนมัติ หน้าที่ของพ่อแม่คือ การสอนให้รู้เรื่องกาลเทศะ กฎกติกามารยาทในสิ่งทำได้หรือทำไม่ได้ แต่ไม่ควรมีข้อห้ามที่มากเกินไป ปล่อยให้มีการลองผิดลองถูก เพื่อทดสอบพลังกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งสำหรับการก้าวต่อไป ซึ่งหากมีการกดดันหรือเปรียบเทียบ จะทำให้เด็กมีพัฒนาการที่ควรเป็นล่าช้า หรืออาจถึงขั้นถดถอย

นี่คือ ส่วนหนึ่งของคำแนะนำถึงวิธีการเลี้ยงเด็กธรรมดา ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งโลกเปิดกว้าง เต็มไปด้วยปัจจัยเร้ามากมาย และพ่อแม่ไม่สามารถบังคับลูกได้ ขณะที่เด็กยุคใหม่ต้องการเลือกทางเดินของตัวเอง ดังนั้น การสร้าง EF หรือ ความสามารถของสมองที่ใช้ในการควบคุมความคิด อารมณ์ เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายจึงเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดอนาคต

สามารถติดตามวิดีโอการบรรยายของคุณหมอประเสริฐ “เลี้ยงลูกอย่างไร ให้เป็นเด็กธรรมดาที่มีความสุข” ได้ที่

TMB Make THE Difference YouTube Channel