TPIPP ชี้ชัดกำไรพีคทุกไตรมาส เล็งแบ่งเค้กขยะ 400 MW  (14/05/62)

575

มิติหุ้น – TPIPP การันตีกำไรโตทุกไตรมาส หนุนผลงานทั้งปี 62 นิวไฮ ชี้ปรับเปลี่ยนบอยเลอร์หนุนประสิทธิภาพผลิตไฟฟ้าดีขึ้น พร้อมรับรู้รายได้จ่ายไฟฟ้า 440 เมกะวัตต์เต็มกำลังการผลิต มั่นใจเต็งหนึ่งคว้าขยะกทม. เล็งแบ่งเค้กขยะตามแผนพีดีพีใหม่ จำนวน 400 เมกะวัตต์ โบรกฯ ปรับเป้า 8 บาท แนะนำ “ซื้อ”

 ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ หรือ TPIPP ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า โดยนายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน  เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค.62 เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดกำลังการผลิต 150 เมกะวัตต์ (TG8) ส่งผลให้ COD ครบ 440 เมกะวัตต์ ดังนั้น จะส่งผลให้บริษัทรับรู้รายได้เต็มจากโครงการ TG8 ในช่วงไตรมาส 2/62 ช่วยหนุนผลประกอบการเติบโตดีกว่าไตรมาส 1/62

ขณะเดียวกัน TPIPP มีแผนลงทุนปรับเปลี่ยนบอยเลอร์ (เครื่องกำเนิดไอน้ำ) ใหม่ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนไปแล้ว 2 ตัว ส่งผลให้ประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าเฉลี่ยในระดับ 85-90% ต่อไตรมาส เหลืออีก 5 ตัวจะทยอยปรับเปลี่ยนให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/63 จะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 100%

ลุ้นชิงไฟฟ้าขยะกทม.40 MW

อย่างไรก็ตาม หลังจาก COD ได้ครบ 440 เมกะวัตต์ บริษัทมั่นใจว่าผลประกอบการจะเติบโตเพิ่มขึ้นทุกไตรมาส ขณะที่ภาพรวมผลประกอบการปี 62 คาดจะทำรายได้เติบโตตามเป้า 50% และกำไรเติบโตสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ)

ส่วนการลงทุนใหม่ เบื้องต้นยังคงเน้นการประมูลโรงไฟฟ้าขยะ ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลประมูลโรงไฟฟ้าขยะกรุงเทพฯ ขนาดกำลังการผลิตรวม 2 โรง 40 เมกะวัตต์ คาดจะประกาศผลเดือน มิ.ย. 62 โดยบริษัทมองว่ามีโอกาสที่จะชนะการประมูล เนื่องจากมีประสบการณ์ด้านกำจัดขยะมากกว่ารายอื่น เทคโนโลยีมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เตรียมประมูลโรงไฟฟ้าขยะ 400 เมกะวัตต์ ตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าฉบับใหม่ (พีดีพี 2018)

เล็งลงทุน CLMV – กูรูชี้กำไรนิวไฮ

ขณะเดียวกัน บริษัทมองหาโอกาสการซื้อกิจการโรงไฟฟ้า รวมถึงการลงทุนในต่างประเทศ เช่น กลุ่มประเทศ CLMV ทั้งเชื้อเพลิงขยะ และฟอสซิล

ด้านแหล่งข่าวนักวิเคราะห์หลักทรัพย์แห่งหนึ่ง ประเมินหุ้น TPIPP ว่า ผลประกอบการตั้งแต่ไตรมาส 2-3-4/62 จะเติบโตทำสถิติสูงสุดทุกไตรมาส เนื่องจากประสิทธิภาพการจ่ายไฟฟ้าดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้ภาพรวมปี 62 คาดว่ามีกำไรสุทธิราว 5,529 ล้านบาท เติบโต 49% หรือทำนิวไฮ พร้อมปรับราคาเป้าหมายเป็น 8 บาท แนะนำ “ซื้อ”