SYNEX รับข่าวดีเทรดวอร์ผ่อนคลาย คงเป้ารายได้ปีนี้โต10-15% (2/7/62)

221

มิติหุ้น – SYNEX รับอานิสงส์เต็มเหนี่ยว หลังสหรัฐผ่อนปรนสินค้าหัวเว่ย คาดยอดขายถัดจากนี้กระเตื้อง แถมรับประโยชน์จากต้นทุนนำเข้าสินค้าลดจากบาทแข็ง ส่วนยอดขายไตรมาส 2 ดรอปเล็กน้อย แต่มั่นใจรายได้ทั้งปียังโต 10 – 15% ตามเป้า ฟากโบรกแนะนำ “ซื้อ”

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า จากสถานการณ์ดีขึ้นสำหรับสินค้า HUAWEI หลังเจรจาการค้าจีน-สหรัฐ G-20 มีความคืบหน้า สหรัฐยอมให้ HUAWEI นำเข้าชิ้นส่วนจากสหรัฐได้ คาด บมจ. ซินเน็ค (ประเทศไทย) หรือ SYNEX ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไอทีรายใหญ่ จะได้รับอานิสงส์ โดยนักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) คาดว่ายอดขายของ SYNEX ถัดจากนี้ไปจะกระเตื้องดีขึ้น พร้อมให้ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 11.40 บาท ใช้ PER ปี 2019 ที่ 12.5 เท่า
               

แนะ “ซื้อ” เป้าสูง 13.20 บ.
ด้านนักวิเคราะห์ บล.เอเอสแอล  ประเมินแนวโน้มผลประกอบการปี 62  คาดธุรกิจยังมองเห็นการเติบโตของรายได้อยู่ราว 5% รายได้ราว 4 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 729 ล้านบาท ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 11.90 บาท
ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป ประเมินว่า ตั้งแต่มีกระแสข่าวว่า Google อาจจะยุติการให้บริการแอพลิเคชั่นบน Smart Phone หัวเหว่ยราคาหุ้นก็ได้ย่อตัวลงมากว่า 15% ก่อนจะเริ่มปรับตัวกลับขึ้นมาได้ แต่ล่าสุดทรัมป์ได้ประกาศว่าบริษัทในสหรัฐสามารถกลับมาทำธุรกิจกับหัวเหว่ยได้ดังนั้นบริษัทเองเป็นผู้ได้ประโยชน์โดยตรง นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าตามต้นทุนนำเข้าที่จะลดลงอีกทาง ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 13.20 บาท

มั่นใจรายได้ทั้งปีโตแกร่ง
ด้านนางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า แนวโน้มผลประกอบการทั้งปี 62 คาดยังเติบโตได้ตามแผนที่ตั้งไว้ราว 10 -15%  จากปีก่อนที่มีรายได้ 38,397 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/62 คาดปรับตัวลงเล็กน้อยจากไตรมาส 1/62 จากกรณีได้รับผลกระทบจากกสินค้า HUWEI ถูกสหรัฐแบนในช่วงผ่านมา
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งหลังปี 62 บริษัทมีแผนเปิดตัวโปรดักส์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทยังเป็นผู้แทนจัดจำหน่ายมือถือทั้ง Apple, Samsung และอื่นๆ รวมถึงสินค้าที่ไม่ใช่มือถือ เช่น สินค้าประเภท Gaming & E-Sport ที่กำลังมาแรง และผู้ซื้อเป็นกลุ่มที่กล้าและเต็มใจที่จะจ่าย รวมถึงสินค้ากลุ่ม Gadget โดรน กล้อง VR, AR และ IoT (Internet of Things) อีกกว่า 50 แบรนด์ ที่ยังสามารถผลักดันได้และมองเห็นการเติบโตของตลาดมากขึ้น รวมถึงยังเป็นสินค้าที่มี margin ที่ดี เชื่อว่าจะสนับสนุนให้บริษัทเติบโตได้ดีขึ้น
พร้อมกันนี้ ยังคงมองหาการลงทุนใหม่ๆ ในธุรกิจไอทีอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีเงินทุนจำนวนมากที่ยังสามารถต่อยอดธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่ง