BGC เตรียมปิดดีล M&A-ชี้ฟันกำไรนิวไฮยาว3ปี

331

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส หรือ BGC โดย “นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร”  กรรมการผู้จัดการ เผยว่า  ภายในปี 62 จะเห็นความชัดเจนการเข้าซื้อกิจการ (M&A) จากปัจจุบันได้ศึกษาความเป็นไปได้อยู่ 5 ราย เป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิม คาดใช้เงินลงทุน 50 -1,000 ล้านบาท/ราย  ด้านฐานเงินทุนจะมาจากกู้ยืมสถาบันการเงิน คาดจะส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.7 เท่า

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลัง จะเติบโตกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจทำให้ยอดขายเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้จากยอดขายในช่วงเดือนก.ค. และ ส.ค. ที่เติบโตได้ดี โดยเฉพาะยอดในประเทศ และประเทศกลุ่ม CLMV

โดยทั้งปี 62 มั่นใจกำไรสุทธิจะเติบโตต่อเนื่อง ส่วนรายได้คาดจะเติบโต 8-10% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น และ การเดินหน้าขยายฐานลูกค้าในตลาดต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายสิ้นปีนี้เพิ่มสัดส่วนการส่งออกเป็น 10%จากปัจจุบันอยู่ที่ 9% และ เพิ่มเป็น 20% ภายในปี 67

พร้อมกันนี้ตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นที่ 16% จากปัจจุบัน 15.1% มาจากการบริหารต้นทุน และ เพิ่มกำลังการผลิตที่โรงงานราชบุรี จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 75% สิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 86% ส่งผลให้กำลังการผลิตรวมสิ้นปีนี้อยู่ที่ 9 หมื่นตันต่อปี จากทั้งหมด 5 โรงงาน

ด้าน  “บล.ทิสโก้” แนวโน้มผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตดีขึ้น จากช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากเข้าสู่ช่วง  High season รองรับการจำหน่ายสินค้าของลูกค้าในช่วงปลายปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเบียร์, ตลาดส่งออกที่คาดจะยังคงเติบโตโดดเด่น จากปีที่แล้วที่มีสัดส่วนเพียง 7% มาอยู่ที่ 10% ในปีนี้ ปัจจุบันบริษัทเข้าจำหน่ายในยุโรป CLMV อินเดีย และ Oceania

รวมถึงประสิทธิภาพการผลิตที่คาดจะเพิ่มขึ้นจาก 84.9% ในครึ่งปีแรก เนื่องจากโรงงานราชบุรีเริ่มมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามจำนวนสินค้าใหม่ที่ลดลงทำให้การเปลี่ยนแปลงไลน์ผลิตน้อยลง คาดอัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมทั้งปีกลับมาสู่ระดับ 16% ได้ จาก 15% ในช่วงครึ่งปีแรก และการเติบโต Inorganic โดยบริษัทให้ความสนใจที่จะลงทุนในบริษัทที่ผลิตสินค้าในกลุ่มบรรจุภัณฑ์เพื่อจะขยายฐานสินค้าและการเติบโตในอนาคต โดยกำไรสุทธิทำนิวไฮ (62-64) อยู่ที่ 546 ล้านบาท, 702 ล้านบาท และ 788 ล้านบาท ตามลำดับ แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมายที่ 14.20 บาท

www.mitihoon.com