CIMBT ชี้เทรดวอร์กระทบลงทุน-บริโภคไทย ปรับจีดีพีเหลือ 2.8% จากเดิม 3.3% มองค่าบาทปลายปีไว้ที่ 30.9 บ.

147

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย หรือ CIMBT โดย ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย เปิดเผยว่า จากความตึงเครียดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน เริ่มเห็นผลกระทบต่อประเทศไทย โดยภาวะชะลอตัวจากภาคต่างประเทศเริ่มลุกลามมาประเทศไทย ส่งผลให้ภาคการลงทุนเอกชนมีแนวโน้มที่จะติดลบในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะภาคการส่งออกมีแนวโน้มติดลบต่อเนื่อง แต่ไม่รุนแรงเท่าครึ่งแรกของปี
ทั้งนี้ เมื่อการส่งออกมีปัญหา จะเริ่มเห็นผู้ประกอบการปรับแผน โดนลดกำลังการผลิตลง และจะมีผลต่อการนำเข้าเครื่องจักร รวมถึงวัตถุดิบอื่นๆ เกิดภาวะเงียบเหงา เมื่อภาคเอกชนชะลอการลงทุน จะส่งผลกระทบต่อมายังภาคการบริโภค การจ้างงานจะมีแนวโน้มลดลง ชั่วโมงการทำงานมีแนวโน้มถูกตัดมากขึ้น

อย่างไรก็ดี เขื่อว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐฯ จะช่วยประคองเศรษฐกิจไม่ให้ย่ำแย่ไปมากกว่านี้ ผ่านการประคองการบริโภคระดับล่าง

สำนักวิจัยฯ มองว่านโยบายที่จะกระตุ้นภาคการลงทุนมีความจำเป็นอย่างมาก โดยคาดหวังจะได้เห็นแรงกระตุ้นภาคการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่นโยบายการเงินมีโอกาสจะได้เห็นมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม และคาดว่าทางการจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในไตรมาส 4/62 นี้ เพื่อประคองเศรษฐกิจ โดยลดภาระค่าใช้จ่ายภาคเอกชน อีกทั้งจะช่วยประคองผู้ส่งออก โดยกดค่าเงินบาทให้อ่อนลงด้วย

ขณะเดียวกัน สำนักวิจัยฯ ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 62 ลงเหลือ 2.8% จากเดิมคาดการณ์ไว้ในเดือนมิ.ย.62 ที่ 3.3%

ส่วนค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงได้จากภาวะปัจจุบัน เพราะแม้นักลงทุนจะให้น้ำหนักกับเฟดที่เชื่อว่าจะปรับลดดอกเบี้ยถึง 4 ครั้ง แค่สำนักวิจัยฯ มองสวนตลาด โดยมองว่าเฟดไม่มีความจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยขนาดนั้น และมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 3 ครั้ง ซึ่งหากเฟดลดดอกเบี้ยตามที่สำนักวิจัยคาด ตลาดจะปรับมุมมองการลงทุน โดยกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์สกุลดอลลาร์มากขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินบาทและค่าเงินในภูมิภาคจะกลับมาอ่อนค่าลงได้เล็กน้อย โดยคาดค่าเงินบาทช่วงปลายปี จะอยู่ที่ 30.9 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ ประเมินภาวะสงครามการค้ามีแนวโน้มจะลากยาวไปจนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปีหน้า และหากประธานาธิบดีทรัมป์ยังนั่งตำแหน่งผู้นำสหรัฐ คาดความตึงเครียดของสหรัฐและจีนยังคงมีต่อเนื่อง ดังนั้ร เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตช้าและลามไปถึงปี 63

www.mitihoon.com