ไทยออยล์ – CHPP ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า Private PPA

74

มิติหุ้น – เช้าวันนี้ คุณบัณฑิต ธรรมประจำจิต (ซ้าย) รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสด้านการกลั่นและ ปิโตรเคมี บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และ คุณกุลพัฒน์ เพิ่มภูศรี (ขวา) ผู้จัดการทั่วไป  บริษัท ผลิตไฟฟ้าและพลังงานร่วม จำกัด หรือ CHPP ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์  ซินเนอร์ยี่  จำกัด (มหาชน)  ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแบบ Private Power Purchase Agreement  โดยมี คุณอธิคม เติบศิริ (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธี และ คุณชวลิต ทิพพาวนิช ( ที่ 2 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่  จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เป็นสักขีพยาน พิธีดังกล่าวจัดขึ้น ณ ห้องประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ชั้น12 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์

โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นความร่วมมือระหว่างไทยออยล์และ CHPP เพื่อนำเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มาติดตั้งที่อาคารวิศวกรรม ด้วยกำลังผลิต 500 กิโลวัตต์ และกลุ่มอาคารสำนักงาน ด้วยกำลังผลิต 600 กิโลวัตต์ สองอาคารเป็นอาคารปลูกสร้างใหม่บริเวณโรงกลั่นไทยออยล์         อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดต้นทุนด้านพลังงาน ในสถานประกอบการ

โครงการนี้จัดเป็นโครงการนำร่องของไทยออยล์ ในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยจะมีการต่อยอดและขยายการใช้พลังงานสะอาดต่อไปในอนาคต

สำหรับบรรณาธิการ

ไทยออยล์เป็นผู้ประกอบธุรกิจการกลั่นและจำหน่ายนํ้ามันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2504 โดยมีธุรกิจหลักคือ การกลั่นนํ้ามันปิโตรเลียม ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 275,000 บาร์เรลต่อวัน

นอกจากนี้ ไทยออยล์มีระบบการบริหารจัดการที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ (Operational Excellence) โดยบริหารงานเป็นกลุ่มที่มีการเชื่อมโยงธุรกิจ ทั้งธุรกิจการกลั่นน้ำมัน ธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน โดยร่วมวางแผนการผลิตก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนต่ำ ขณะเดียวกันมีคุณภาพสูงในระดับโรงกลั่นชั้นนำ (Top quartile) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้ได้เปรียบเชิงต้นทุนการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนั้น ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลากหลาย เช่น ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจสารทำละลาย ธุรกิจบริหารการขนส่งทางเรือและทางท่อ ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาด ธุรกิจบริการจัดเก็บนํ้ามันดิบ นํ้ามันปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี และธุรกิจให้บริการด้านการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรสำหรับกลุ่มไทยออยล์

www.mitihoon.com