NYT กำไรปีนี้โตแกร่ง8% กูรูเคาะปันผลงาม (16/09/62)

478

มิติหุ้น – NYT เผยผลงานครึ่งหลังโตเด่น เชื่อเทรดวอร์ไม่กระทบลูกค้าตบเท้าเข้าใช้บริการธุรกิจท่าเทียบเรือแน่น ส่วนธุรกิจคลังสินค้าเร่งควานหาพื้นที่ขยายเพิ่ม ด้านแผนผนึกพันธมิตรขยายท่าเทียบเรือตปท.ยังอยู่ในแผน โบรกฯ ประเมินกำไรปีนี้โตเพิ่ม 8% แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 6.10 บาท

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.นามยง เทอร์มินัล หรือ NYT โดยแหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการครึ่งหลังปี 62 คาดเติบโตทรงตัวตามภาพรวมของการส่งออกของไทย ซึ่งปัจจุบัน “ธุรกิจท่าเทียบเรือ” มีอัตราการใช้บริการพื้นที่เฉลี่ยอยู่ที่ 60% และมีลูกค้าในกลุ่มรถยนต์ที่ใช้บริการท่าเทียบเรือส่งออกถึง 18 แบรนด์  ขณะที่ “ธุรกิจบริการพื้นที่ฝากเก็บสินค้า” มีอัตราการใช้พื้นที่ราว 90% ด้านปัจจัยสงครามการค้าเชื่อว่าไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากยอดส่งออกรถยนต์ยังมีการเติบโต

เล็งขยายธุรกิจเพิ่ม

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาแผนขยายพื้นที่ให้บริการในธุรกิจบริการพื้นที่ฝากเก็บสินค้า จากเดิมที่มีประมาณ 2.7 แสนตารางเมตร โดยจะเน้นในละแวกพื้นที่เหมาะสมใกล้บริเวณท่าเทียบเรือ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้  ขณะเดียวกันมีแผนขยายธุรกิจท่าเทียบเรือในอาเซียนร่วมกับพันธมิตรในต่างประเทศอยู่ในแผนเช่นเดียวกัน แต่ยังไม่มีความคืบหน้าชัดเจน

“ธุรกิจท่าเทียบเรือในอาเซียนยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เช่น ในกัมพูชา ที่มีท่าเทียบเรือและมีโอกาสเติบโตสูง และเวียดนาม ที่เริ่มผลิตรถยนต์แบรนด์ของตนเอง แต่ยังมีวอลุ่มการส่งออกยังน้อยอยู่” แหล่งข่าวกล่าว

คาดกำไรปีนี้พุ่ง 8%
นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ ประมาณการกำไรสุทธิ NYT ปี 62 ไว้ที่ 438 ล้านบาท เติบโต 8% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากคาดจะได้อานิสงส์จากรายได้จากการให้บริการพื้นที่คลังสินค้าที่เพิ่มขึ้นเต็มปี และปัจจัยบวกจากจำนวนรถยนต์ที่ขนถ่ายผ่านท่าเรือเพิ่มขึ้นทั้งนำเข้าและส่งออก โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยคาดว่ายอดส่งออกรถยนต์จะทรงตัวในขณะที่เราคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

ขณะเดียวกัน ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” NYT และประเมินราคาเป้าหมาย 5.80 บาท โดยคาดว่าผลประกอบการจะเพิ่มขึ้น และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจที่ระดับ 7.4% ในปี 62-63 ซึ่งคาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 3/62 จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามจำนวนการส่งออกรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” และให้ราคาเป้าหมาย 6.10 บาท

www.mitihoon.com