GGC แกร่งรับดีมานด์ไบโอดีเซล ยอดขายทั้งปีแตะ4แสนตัน (30/09/62)

142

มิติหุ้น – GGC โบรกฯ ชี้ผลประกอบการครึ่งปีหลังโตแกร่ง รับปัจจัยบวกรัฐหนุนใช้ B10 กระตุ้นยอดบริโภค ส่วนไตรมาส 4/62 เริ่มเข้าไฮซีซันธุรกิจ แนะ”ซื้อ”  ด้านผู้บริหารมั่นใจยอดขาย B100 ทั้งปีทะลุ 4 แสนตัน เตรียมลุยก่อสร้างไบโอคอมเพล็กซ์ เฟสแรก ต.ค. นี้

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล หรือ GGC ประกอบธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยมีผลิตภัณฑ์ คือ เมทิลเอสเทอร์ แฟตตี้แอลกอฮอล์ กลีเซอรีนบริสุทธิ์ และผลิตภัณฑ์พลอยได้หลายประเภท โดยนักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดแนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 62 จะทยอยฟื้นตัว เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 3/62 ที่จะขยายตัวต่อจากไตรมาส 2/62 หนุนโดยค่าใช้จ่ายที่ลดลง อาทิ ค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุง, ค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาและตั้งสำรองพนักงานตามกฎหมาย ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/62 คาดฟื้นตัวตัวต่อเนื่อง จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นความต้องการใช้ไบโอดีเซลในฤดูขับขี่ และความต้องการใช้สำหรับผลิตสินค้าช่วงเทศกาลปีใหม่

แนะ”ซื้อ”เป้า13.60บ.

ทั้งนี้ คาดในปี 63 จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของ GGC หนุนจากการเริ่มใช้น้ำมันดีเซล B10 เป็นเกรดพื้นฐานแทน B7 ในปัจจุบัน ทำให้มีความต้องการใช้ไบโอดีเซล (B100) เพื่อเป็นส่วนผสมมากขึ้น และบริษัทมีแผนการเติบโตระยะยาวจากการขยายสายการผลิตไปสู่อ้อยภายใต้โครงการ  Biocomplex  ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการก่อการสร้าง เฟส 1 และมีแผนขยายเฟส 2 ในอนาคต ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเหมาะสม 13.60 บาท

ด้านนายวิทูร ซื่อวัฒนากุล กรรมการผู้จัดการ เผยว่า บริษัทคาดผลการดำเนินงานในครึ่งหลังปี 62 จะดีกว่าครึ่งปีแรก จากปัจจัยบวกภาครัฐส่งเสริมการใช้  B10 ทำให้คาดว่าความต้องการใช้จะเติบโตเพิ่มขึ้น โดยคาดปริมาณการขายไบโอดีเซล (B100) ของบริษัทปีนี้จะเติบโต 10% เป็น 4 แสนตัน จากครึ่งปีแรกมียอดขายแล้ว 2 แสนตัน

ลุยไบโอคอมเพล็กซ์
ส่วนความคืบหน้าโครงการนครสวรรค์ ไบโอคอมเพล็กซ์ เฟส 1 มูลค่า 7,500 ล้านบาท ที่ GGC ร่วมดำเนินโครงการกับกลุ่ม บมจ.เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น หรือ KTIS คาดจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือน ต.ค.62 หลังจากนั้นจะเริ่มหีบอ้อยได้ช่วงปลายปี 63 และเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/64
ทั้งนี้ โครงการเฟส 2 บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาต่อยอดไปยังอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ (ไบโอพลาสติก) ชนิด PLA ซึ่งมีมูลค่าโครงการประมาณ 30,000-40,000 ล้านบาท ในเบื้องต้นคาดว่าจะสรุปพันธมิตรร่วมลงทุนและแผนการลงทุนได้กลางปี 63 และพยายามให้เกิดการลงทุนในช่วงปี 63-64

www.mitihoon.com