KTC รุกการตลาดเขย่าสินเชื่อพุ่ง งบQ3ร้อนระอุ-เป้า52บ. (10/10/62)

257

มิติหุ้น-KTC ปักธงผลงานทำนิวไฮยาว3 ปี (62-64) ชูกลยุทธ์เร่งทำการตลาดกระตุ้นการใช้จ่าย ชี้ธุรกิจใหม่เขย่าพอร์ตสินเชื่อโตโดดเด่น มั่นใจคุม NPL อยู่หมัด โบรกชี้ไตรมาส 3/62 กำไรพุ่ง 15% ไฮซีซั่นหนุน-สินเชื่อโตฉลุย ชี้เป้า 52 บาท

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บัตรกรุงไทย หรือ KTC โดย “นายระเฑียร ศรีมงคล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า ภายใน 3 ปีข้างหน้า (62-64) คาดกำไรจะเติบโตเฉลี่ย 10-15% ต่อปี เพราะบริษัทจะใช้งบการตลาดเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย ส่วนธุรกิจใหม่ อย่าง ธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน ภายใต้ชื่อ “KTC พี่เบิ้ม” ที่เริ่มในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา จะผลักดันให้สินเชื่อเติบโตมากขึ้น

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/62 จะดีกว่าไตรมาส 2/62  และช่วงไตรมาส 4/62 จะทำสถิติสูงสุดแห่งปี จากการเร่งใช้งบการตลาดเพื่อให้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโต 15% และ พอร์ตลูกหนี้เติบโต 10% ตามแผนธุรกิจที่วางไว้ทั้งนี้บริษัทยังมีแผนออกหุ้นกู้ในช่วงที่เหลือของปี โดยปัจจุบันบริษัทมีวงเงินคงเหลือ 2.57 หมื่นล้านบาท จากก่อนหน้านี้

ออกหุ้นกู้ไปแล้วรวม 4 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งเพื่อให้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และทั้งปีคาดควบคุมหนี้ที่มิก่อให้เกิดรายได้รวม (NPL)อยู่ในระดับ 1.1% ซึ่งใกล้เคียงกับปัจจุบัน

สินเชื่อพุ่ง-ผลงานQ3โตเด่น

ด้าน “นางสาวจุฑามาศ เต็มวัฒนางกูร” นักวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/62 มั่นใจจะกลับมาเติบโต ซึ่งคาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.52 พันล้านบาท เติบโต 15% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเติบโต 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยกำไรสุทธิช่วงไตรมาส 3/62 เติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  เนื่องจากสินเชื่อขยายตัวเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 3% จากไตรมาสก่อน ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ย และรายได้ค่าธรรมเนียมปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้คาดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเฉลี่ยจะปรับตัวลดลงอยู่ที่ 2.9% (Q3/61และQ2/62อยู่ที่ 3.0%) จากการครบกำหนดอายุหุ้นกู้ 2.4 พันล้านบาทที่มีดอกเบี้ยสูงถึง 3.75% ในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา

ส่วนกำไรไตรมาส 3/62 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน เพราะค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองสุทธิหดตัว 34% จากไตรมาสก่อน ตามการติดตามหนี้ที่ดีขึ้น รวมทั้งการตัดจำหน่ายหนี้สูญที่สูงในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้รายได้หนี้สูญรับคืนเพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยเชื่อว่า NPLs จะปรับขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 1.17% (Q3/61= 1.2%,Q2/62= 1.13%) ตามการใช้จ่ายในประเทศที่ยังทรงตัวเป็นหลัก ทั้งนี้บริษัทจะยังสามารถรักษาระดับ coverage ratio ที่สูงกว่า 603% ได้

โชว์กำไรทั้งปีสดใส

ดังนั้นทั้งปี 62 คาดกำไรสุทธิที่ 5.97 พันล้านบาท เติบโต 16% จากปีก่อน จากสินเชื่อที่ขยายตัว 7% โดยเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคลที่ขยายตัวมากกว่า 9% ภายหลังที่บริษัทได้เริ่มปล่อยสินเชื่อที่มีรถยนต์เป็นประกัน (KTC พี่เบิ้ม) ในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา รวมทั้งความสามารถในการรักษาระดับ NPLs ที่ต่ำประมาณ 1.08%

นอกจากนี้คาดว่าค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองจะลดลงคิดเป็น credit cost 730 bps (ปีก่อน 752 bps) จากระดับ coverage ratio ที่สูงกว่า 611% จึงเชื่อว่าบริษัทจะตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญลดลง เพื่อใช้ประโยชน์จากสำรองส่วนเกินก่อนการบังคับใช้มาตรฐานการบัญชี TFRS9 ในปี 63 ซึ่งมองว่าบริษัทมีแนวโน้มที่จะ reverse สำรองส่วนเกินเข้ากำไรสะสม แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 46 บาท

สะสมเข้าพอร์ต-เป้า 52บ.

ด้าน “บล.เอเชีย เวลท์” เผยว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/62 จะเพิ่มขึ้น เพราะได้รับแรงหนุนจากสินเชื่อที่เติบโต จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น รวมถึงธุรกิจใหม่ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ (พี่เบิ้ม) นอกจากนี้คาดต้นทุนทางการเงินของกลุ่มลดลง จากคาดการณ์ว่าบริษัทจะรีไฟแนนซ์หุ้นกู้อัตราดอกเบี้ยสูงด้วยหุ้นกู้ใหม่ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำแทน

พร้อมกันนี้ KTC ได้เร่งขยายสินเชื่อ โดยล่าสุดได้ขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจพิโกไฟแนนซ์ 4 แห่ง ได้แก่ จ. ปทุมธานี, จ. ชลบุรี, จ. สมุทรปราการ และ จ. สมุทรสาคร โดยคาดสินเชื่อใหม่ของทั้ง 4 แห่งจะเริ่มส่งผลบวกต่อ NIM ของกลุ่มในระยะยาว คาดจะเริ่มเห็นผลชัดขึ้นในกลางปี 63 ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 52 บาท