ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย คว้ารางวัลธนาคารดิจิทัลแห่งปี โชว์ความพร้อมบริการดิจิทัลสมบูรณ์แบบเพื่อลูกค้าทุกประเภท

346

มิติหุ้น – ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ได้รับรางวัลธนาคารดิจิทัลแห่งปี (Digital Bank of the Year Award 2020) จากการประกวด The Asset Triple A Digital Awards 2020 งานประกาศรางวัลแก่กลุ่มธุรกิจและสถาบันทางการเงินในประเทศต่าง ๆ ของ The Asset นิตยสารธุรกิจการเงินชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งการได้รับรางวัลดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในด้านดิจิทัล แบงก์กิ้งของธนาคารซิตี้แบงก์ ภายใต้แนวคิด “Freedom to do more” ที่พร้อมให้บริการทางการเงินผ่านทางดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทางการเงินที่สำคัญได้ด้วยตนเอง ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องเสียเวลาติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคาร หรือเดินทางไปยังธนาคาร โดยมุ่งเน้นประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าของธนาคาร ผ่านทางซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน หรือผ่านระบบซิตี้แบงก์ ออนไลน์

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย หรือ www.citibank.co.th

มร. ทีบอร์ พานดิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ได้รับการขนานนามว่าเป็นธนาคารดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทย จากงาน The Asset Triple A Digital Awards 2020 ซึ่งผมเชื่อว่าการที่ซิตี้แบงก์ได้รับรางวัลนี้ เป็นผลมาจากความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการต่างๆ ผ่านช่องทางดิจิทัล เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าและเพื่อส่งมอบสิ่งดีที่สุดสำหรับลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญมากที่สุดมาโดยตลอด นอกจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการ หรือนวัตกรรมใหม่ๆ ผ่านทางดิจิทัลแล้ว เรายังทำการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งในการทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินเป็นเรื่องง่าย และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีกว่าเดิม รวมถึงการขยายเครือข่ายพันธมิตรดิจิทัลของเราอย่างต่อเนื่อง”

นางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เผยว่า กลยุทธ์ด้านการเป็นธนาคารดิจิทัลนั้นสอดคล้องกับภารกิจหลักของซิตี้ทั่วโลก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งมอบประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าไม่ว่าจะอยู่ที่ใด โดยเชื่อว่าการให้บริการด้านดิจิทัล แบงก์กิ้งของธนาคารซิตี้แบงก์นั้น สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ในทุกขั้นตอนของการให้บริการ โดยให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมกับธนาคารได้อย่างอิสระ ไม่ยุ่งยาก และไม่เสียเวลา ภายใต้แนวคิด “Freedom to do more”

โดยธนาคารซิตี้แบงก์ทำการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อนำเสนอบริการที่แก้ปัญหาที่ลูกค้าประสบ รวมถึงเพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการต่างๆ ได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ก้าวผ่านข้อจำกัดในการต้องติดต่อธนาคารในการรับบริการสำคัญต่างๆ ในปัจจุบัน ลูกค้าหันมาใช้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้น ในปี 2562 ธนาคารฯ พบว่าจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน (Citi Mobile® Application) นั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาเกือบ 50% นอกจากนี้ช่องทางดิจิทัล ยังกลายเป็นช่องทางที่สำคัญที่ลูกค้าใหม่ใช้ในการสมัครผลิตภัณฑ์ของธนาคาร ในปี 2562 มีลูกค้าบัตรเครดิตที่สมัครใช้บริการผ่านทางออนไลน์เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาถึง 50% ในขณะที่ลูกค้าที่เปิดบัญชีเงินฝากหรือเงินลงทุนกับธนาคาร อาทิ ซิตี้โกลด์ และ ซิตี้ ไพรออริตี้ ผ่านทางออนไลน์ มีการเติบโตขึ้นมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับปี 2561

นอกจากนี้ ซิตี้แบงก์ได้ยกระดับประสบการณ์ในการสมัครบัตรเครดิต สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่มีบัตรเครดิตกับธนาคารอยู่แล้ว โดยลูกค้าสามารถสมัครบัตรเครดิตใบใหม่ทางออนไลน์ โดยใช้เวลาทั้งหมดไม่ถึง 1 นาที ก็จะทราบผลการอนุมัติได้ทันที นอกจากนี้ธนาคารยังมีการให้บริการสินเชื่อผ่อนชำระ (Quick Cash) ผ่านทางโมบายล์ แอปพลิเคชัน หรือซิตี้แบงก์ ออนไลน์ ให้ลูกค้าสามารถขออนุมัติเงินก้อน โดยใช้วงเงินคงเหลือจากบัตรเครดิตซิตี้ หรือบัญชีเรดดี้เครดิตได้ ได้ง่าย ๆ และรวดเร็ว ทั้งยังได้รับข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษอีกด้วย

อีกทั้งยังมีบริการ “ซิตี้ เพย์ ไลท์” (PayLite) และ “ซิตี้ เฟล็กซิบิล” (FlexiBills) ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกผ่อนชำระรายการซื้อสินค้าหรือบริการที่มีมูลค่าสูง หรือแบ่งจ่ายใช้จ่ายคงค้างเป็นรายเดือน เพื่อแบ่งเบาภาระในการชำระเงินลงได้ นอกจากนี้ซิตี้แบงก์ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัทดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ ลาซาด้า (Lazada) และ แกร็บ (Grab) ในการนำเสนอสิทธิประโยชน์ด้านบัตรเครดิตที่โดดเด่น และตรงตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับบริษัทฟินเทค เพื่อพัฒนาประสบการณ์ให้กับลูกค้าในด้านการชำระเงินและการแลกคะแนนสะสมเพื่อรับของรางวัลโดยทันทีผ่านเทคโนโลยี API

ในส่วนของซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชันนั้น มีบริการต่าง ๆ มากมาย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าเกี่ยวกับบริการด้านบัตรเครดิต เช่น การเปิดใช้งานบัตร การตรวจสอบยอดใช้จ่ายต่าง ๆ แบบเรียลไทม์ การดูยอดค้างชำระ หรือคะแนนสะสม การระงับบัตรชั่วคราวเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน และการชำระเงินทันทีผ่าน QR Code บริการต่าง ๆ เหล่านี้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงรายละเอียดบัญชีและจัดการธุรกรรมต่างๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งธนาคารยังพบว่าการที่ลูกค้าหันมาใช้บริการด้านดิจิทัลมากขึ้น ก็เป็นการลดจำนวนการโทรเข้าศูนย์บริการลูกค้าเพื่อสอบถามข้อมูลต่าง ๆ อีกด้วย

สำหรับบริการด้านการธนาคารสำหรับลูกค้าเงินฝากหรือเงินลงทุน ซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชั่น มีบริการใหม่ล่าสุดบนแอปพลิเคชัน ภายใต้บริการ “ออเธอไรเซชั่น คอร์เนอร์” (Authorization Corner) โดยลูกค้าสามารถทำการตรวจสอบยืนยันเอกสารคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุน ดูเอกสารที่เกี่ยวข้อง และอนุมัติการทำธุรกรรมผ่าน OTP นอกจากนี้ลูกค้าสามารถเปิดใช้สกุลเงินตราต่างประเทศได้สูงสุด 8 สกุลเงิน โดยทันทีผ่านซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชั่น ภายใต้บริการ “ซิตี้แบงก์ โกลบอล วอลเลท” (Citibank Global Wallet) เพื่อใช้จ่ายในต่างประเทศ หรือซื้อสินค้าหรือบริการทางออนไลน์ รวมถึงการถอนเงินสดที่ตู้ ATM ของซิตี้ทั่วโลก โดยสามารถทราบอัตราแลกเปลี่ยนที่แน่นอนในขณะที่ทำการแลกเงิน และไม่มีค่าธรรมเนียมบริการ โดยล่าสุดได้เปิดตัวบริการ “ซิตี้ เพย์ออล” (Citi PayAll) เพื่อให้ลูกค้า สามารถชำระค่าเล่าเรียน หรือค่าเช่าบ้านได้ผ่านบัตรเครดิตซิตี้ หรือบัญชีซิตี้ เรดดี้เครดิต แทนการชำระด้วยเงินสด นอกจากนี้ ธนาคารฯ วางแผนที่จะเปิดตัวซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชั่น โฉมใหม่ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อเพิ่มบริการใหม่ ๆ รวมถึงพัฒนาประสบการณ์ในการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น นางวีระอนงค์ กล่าว

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย หรือ www.citibank.co.th